เดิมที Spawn คือการ์ตูนยอดฮิตของอเมริกาอันแสนโด่งดังเพราะความดาร์คการดำเนินเนื้อเรื่องอันแสนสุดโต่งที่ถลำเข้าสู่ด้านมืดของตัวละครอย่างลึกซึ้ง และในฉบับหนังจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับอัล ซิมมอนส์ (Michael Jai White) อดีตทหารที่ตอนนี้กลายเป็นทหารรับจ้างทำตามคำสั่งของเจสัน วินน์ (Martin Sheen) ที่เป็นเจ้านายว่าจ้างให้ไปทำภารกิจต่างๆโดยอ้างว่าทำไปเพื่อจัดการผู้ก่อการร้าย แต่หลังจากทำภารกิจสำเร็จในครั้งล่าสุดก็จริงแต่ใจกลับรู้สึกไม่ค่อยดี เมื่อรู้ว่ามีคนบริสุทธิ์ต้องตายในภารกิจของตัวเอง อัลจึงคิดถึงครอบครัวก่อนจะบอกว่าขอเลิกกับเจสัน แต่เจสันไม่ให้เลิกทันควันก่อนจะทำภารกิจสุดท้ายไปถล่มโรงงานเสียก่อน แต่กลายเป็นว่าอัลถูกเจสันหลอกใช้ให้มาติดกับเพื่อฆ่าตามแผนของคลาวด์ (John Leguizamo) ที่ทำหน้าที่บ่งการวางแผนให้กับเจสัน โดยการตายของอัลคือแผนการเริ่มต้นดำเนินการล้างโลกหายนะครั้งใหญ่ หลังจากอัลตายก็ได้ทำคำสัญญากับซาตานเพื่อจะแก้แค้นเจสัน เพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นสปอว์น หลังจากอัลกลับมาจากนรกพร้อมจะแก้แค้นเจสัน แต่ทว่าทุกอย่างเหมือนถูกวางหมากเอาไว้ ยิ่งเขาใช้ความโกรธมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งได้ใจคลาวด์มากขึ้นเท่านั้น ทุกๆครั้งที่อยากกำจัดเจสันกลับยิ่งเหมือนราดน้ำมันลงไฟ แต่ยิ่งรับรู้อะไรหลายอย่างมากขึ้นทำให้ตอนนี้รับรู้แล้วทำไมอยากให้กำจัดเจสันมากนัก เพราะชนวนระเบิดล้างโลกจะทำงานเมื่อเจสันตาย และอัลคือนกต่อที่ต้องการปลูกฝังความแค้นให้รับเงื่อนไขเป็นสปอว์นในการล้างแค้นเพื่อหลังจากระเบิดไวรัสล้างโลกเสร็จ กองทัพซาตานจะมายังพื้นโลกได้ ทว่าถ้าเขากำจัดเจสันลงได้จะสามารถเป็นถึงผู้นำเหล่ากองทัพสปอว์น นั้นจะทำให้เขามีอำนาจยิ่งกว่าใครๆ แต่ถ้าเขาฆ่าเจสันจะทำให้ทุกคนบนโลกตาย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีแวนด้า (Wanda Blake) ภรรยาสุดที่รักกับไซแอน (Sydni Beaudoin) ลูกสาวต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย ถึงงั้นเขาที่เป็นสปอว์นกลายเป็นปีศาจไปแล้วจะหันกลับมารักได้ลงรึ
นี่คือซุปเปอร์ฮีโร่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าซุปเปอร์ฮีโร่รายอื่นๆเพราะมีคอนเซ็ปต์สุดดาร์คก่ำกึ่งว่าจะดีหรือร้าย ที่กล่าวมานี้หมายถึงฉบับการ์ตูนไม่ได้หมายถึงตัวหนัง เพราะถ้าเป็นฉบับหนังคงประมาณเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตามสูตรไร้เดียงสา เมื่อรู้ว่าธรรมมะย่อมชนะอธรรมเรื่องก็ง่ายเข้าไปใหญ่ การเล่นจิตใจกับสปอว์นเป็นจุดอ่อนของเรื่องที่นำพาแบบหลวมๆคล้ายกับกระดาษเปื่อยน้ำที่สะบัดทีเดียวก็ขาดอย่างง่ายดาย แม้จะมีการดำเนินแบบเล่นกับครอบครัวก็จริงๆแต่ผลลัพธ์ดูจะมองข้ามผ่านจนเป็นได้เพียงตัวละครเสริมเนื้อเรื่อง
ถ้าหากไม่ใช่มีการปูความสัมพันธ์ครอบครัวมาบ้างเราอาจจะรู้สึกได้แค่การล้างแค้นเพียงอย่างเดียว ถึงงั้นก็เหอะเรื่องสัมพันธ์ความรักอะไรนั้นยังเบาบางจนไม่คิดอยากเอาใจช่วยเลยด้วยซ้ำ การตายของอัลไม่ได้ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเสียใจกับทหารรับจ้างปลดเกษียณที่อยากมีชีวิตกับครอบครัว เพราะในแง่มุมมองที่ตัวเรื่องกำลังเดินอยู่นั้นเป็นเพียงการหลบหนีความผิดพลาดของตัวเองมากกว่า ถ้าจะนับจริงๆว่าเกิดคุณธรรมขึ้นมากลางคันจะฟังดูพิลึกขึ้นมาทันที
สำหรับผู้ชมแล้วคิดว่าการตายของอัลคือสิ่งที่อยากรอคอย(และดำเนินเรื่องเร็วซะด้วย) เพราะถ้าอัลตายเมื่อไหร่สปอว์นจะจุติเมื่อนั้น พอถึงตอนนั้นสายตาผู้ชมจะรับคิดสปอว์นเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวละครอื่นๆถ้าสร้างให้มีมิติจะช่วยในเรื่องของปมได้ แต่นี่ไม่เลยปล่อยไปตามน้ำไม่ไหลกลับ กะเอาสปอว์นมาโชว์เอฟเฟคมากกว่า
ที่น่าชื่นชมคือทีมงานเอฟเฟคที่ไม่รู้ว่าจะดีไปไหน ขนาดที่ว่าอย่างกับเห็นตัวสปอว์นจริงๆหลุดโลกมาอย่างนั้น และด้วยความสามารถของสปอว์นตัวหนังจึงเรียกใช้เอฟเฟคกันอย่างจุใจ แถมแอ็คชั่นพอทำหอมปากหอมคอได้บ้างในบางจังหวะ แต่เพราะฟอร์มเล็กเกินไปจึงมีคุณภาพแค่เอฟเฟคดีในพื้นที่จำกัด ไม่ถึงขั้นจะสร้างความยิ่งใหญ่ตระการตาได้อย่างเต็มอิ่ม ถ้าถามว่าจะเอาอะไรมากมันพึ่งจะเริ่มต้นสงครามสวรรค์กับนรก อันนี้ขอตอบว่าใช่มันพึ่งเริ่มต้นอาจจะไม่มีอะไรมากให้โยงถึงเรื่องอื่น แค่มันน้อยเกินไป เหมือนเป็นเรื่องปัญหาครอบครัวที่ตีกันไม่แตก ซึ่งแก้ปัญหาโดยใช้กำลังกับสมองที่เกือบๆไร้สติยั้งคิด แม้จะมีของดีในตัวอยู่หลายส่วนจนน่าจะกลายเป็นฮีโร่มีปมได้อย่างเข้มข้น สุดท้ายต้องปล่อยของดีหลุดลอยไปกับความมืดอย่างน่าเสียดาย สำหรับคนที่ไม่คิดมากการได้รับเอฟเฟคงามๆกับตัวละครแปลกตาอาจเป็นของดีเอาไว้ผ่อนคลายยามว่างก็ได้ และโดยส่วนมากจะชอบเรื่องนี้กันตรงที่การเล่าเรื่องเร็วกระชับง่ายและแอ็คชั่นมันส์ๆกำลังพอไปรอดที่มากับกลิ่นอายกำลังใช่