ปีนี้มีหนังซอมบี้เอเชียให้ดูกับถึงสองเรื่อง เรื่องแรกโด่งดังประสบความสำเร็จมากก็คือ Train to Busan จากเกาหลี เรื่องต่อมาก็เป็นผลงานจากทางฝั่งญี่ปุ่นคือเรื่องนี้ I am a hero ข้าคือฮีโร่ หนังเล่าถึง ฮิเดโอะ ซูซูกิ (Yô Ôizumi) ผู้ช่วยนักเขียนการ์ตูนที่ 15 ปีก่อนเคยได้รับรางวัลนักวาดการ์ตูนดาวรุ่งยอดเยี่ยม แต่ชีวิตก็ไปได้ไกลแค่นั้น 15 ปีผ่านไปชีวิตเขาก็ยังเหมือนเดิม
แถมด้วยความไม่เอาอ่าวเอาทะเลชีวิตคู่ก็เลยมีปัญหา เคโกะ คนรักก็มาบอกเลิกกันอีก แต่ชีวิตที่ว่าวิกฤติ กลับยังมีเรื่องที่วิกฤติซะยิ่งกว่า เมื่อประเทศญี่ปุ่นในตอนนี้เกิดการระบาดของไวรัส ZQN ที่เปลี่ยนให้คนที่ติดเชื้อเป็นบ้าและกลายเป็นซอมบี้ ซูซูกิ ก็เลยต้องกระเตงปืนลูกซองคู่ใจ ที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะยิง (อ้างว่ากฏหมายห้ามใช้ปืนในที่สาธารณะ) ฝ่าดงซอมบี้เพื่อเอาชีวิตให้รอด
ปีนี้หนังซอมบี้เอเชียที่ออกมาทั้งสองเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดีทั้งสองเรื่อง แถมประเด็นที่หนังต้องการถ่ายทอดก็ไม่ซ้ำกัน Train to busan อาจจะเอาวัตถุดิบเก่า อย่างประเด็นเรื่องการเอาตัวรอดขณะเกิดวิกฤติ ความเห็นแก่ตัวมานำเสนอ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ตรงประเด็นถึงจะดูยัดเยียดในบางครั้ง ส่วน I am a hero จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ประเด็นใหม่อะไร เรื่องของเพศชายที่เป็นพวก Loser หรือพวกขี้แพ้ก็มีให้เห็นในหนังญี่ปุ่นเรื่อยๆ อย่างก่อนหน้านี้ที่พอนึกออกก็ ไคจิ กลโกงมรณะ เพียงแต่ประเด็นนี้ไม่ค่อยได้เห็นในหนังซอมบี้ก็เท่านั้นเอง
ส่วนซอมบี้ในเรื่องก็ทำออกมาได้สยองดี มีความแฟนตาซีนิดๆ ตรงที่เกือบจะมีพละกำลังมากกว่าแค่ซอมบี้วิ่งเร็วๆ พิมพ์นิยมของหนังซอมบี้ในปัจจุบัน แต่ด้วยความที่เป็นหนังญี่ปุ่น การนำเสนอหลายๆอย่างยังคงสไตล์ไว้ชัดเจน ประเภทว่าซอมบี้จะวิ่งเข้าใส่อยู่แล้ว ยังยืนตะลึงพูดกับตัวเองอยู่เลย คือสังเกตุหนังตลกญี่ปุ่นมา(เท่าที่ได้ดู) จะมีช็อตประมาณนี้ตลอด ยืนตะลึงยืนคุยกันรอให้มาถึงตัวแล้วค่อยหลบ สึด…คนดูก็ลุ้นไปเหอะว่าเมื่อไหร่จะวิ่งหร่ะพี่ ฮ่าฮ่า
สรุปแล้ว I am a hero (2015) ข้าคือฮีโร่ ถือว่าหนังยังตอบโจทย์ความบันเทิงดูสนุก แม้อาจจะยังไม่ระทึกขวัญตื่นเต้นมาก คงเพราะหนังทำจากมังงะมันเลยมีความ Surreal เกินจริงอยู่บ้าง หนังมีการยิงมุกตลอดทั้งเรื่อง แถมทีมพากย์ไทยก็เน้นฮาก็ถือว่าคุ้มค่าเวลาดูไม่ผิดหวังแน่นอน
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : I am a hero (2015