Private Lives ไพรเวท ไลฟ์ ซีรีส์แนวโรแมนติกอาชญากรรม ผลงานใหม่ของซอฮยอน SNSD (Girls’ Generation) ลง Netflix ว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวที่เกิดในครอบครัวนักต้มตุ๋น ที่มุ่งล้างแค้นให้กับพ่อที่ถูกนักตุ้มตุ๋นระดับใหญ่กว่าหลอกลวงให้ก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่จนต้องติดคุกแทน
เรื่องราวของ “ชาจูอึน” สาววัยรุ่นที่เติบโตมากับพ่อแม่ที่ทำอาชีพเป็นนักต้มตุ๋นจริงจัง โดยที่เธอก็ไม่ได้หวังเดินตามรอยนี้ แต่พ่อแม่ก็ให้เธอร่วมในการต้มตุ๋นคนด้วยการให้รับบทเหยื่อแสร้งถูกรถชน ก่อนพ่อแม่จะรีดไถจากเจ้าของรถ ซึ่งเธอก็ทำแค่เอาสนุกๆ แต่แล้วพ่อกลับโดนหลอกเข้าร่วมขบวนการตุ๋นครั้งใหญ่ จากฝีมือของ “จองบกกี” เจ้าแม่ต้มตุ๋นชื่อดังของวงการ ซึ่งภายหลังได้เงินครั้งใหญ่ พ่อของเธอถูกตัดตอนให้กลายเป็นแพะรับบาปเพียงคนเดียว ตัวเธอเองจึงวางแผนล้างแค้น โดยมีความช่วยเหลือจากแม่และเพื่อนร่วมงานของแม่ แต่แผนกลับผิดพลาดซ้ำรอยเดิม ไม่สามารถจัดการจองบกกีได้ เธอต้องเข้าคุก
ก่อนที่จะออกมาตามหาจองบกกีอีกครั้ง แต่เธอกลับพบหนุ่มพนักงานบริษัทใหญ่เทเลคอม “อีจองฮวาน” (รับบทโดย โกคยองพโย) ที่หาพยายามจีบเธอด้วยมุกเชยๆ แต่กลับทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ซีรีส์เกาหลีแนวตัวเอกเป็นอาชญากรนักต้มตุ๋นที่อาจจะแปลกใหม่พอสมควร แต่ถ้ามองจากฝั่งญี่ปุ่นที่ผู้เขียนดูมานี่มีมาหลายเรื่องแล้วเกี่ยวกับวงการต้มตุ๋น อย่าง KUROSAGI, Liar Game, Scam ล่าสุดก็เป็นอนิเมะ Great Pretender ยอดคนลวงโลก ซึ่งเรื่องแนวๆ นี้ญี่ปุ่นถนัดมากๆ เพราะที่ว่ามาสนุกทุกเรื่อง ด้วยทริกกลเม็ดหลอกลวงแบบเหนือชั้น หรือแม้แต่แบบบ้านๆ แต่อาศัยช่องโหว่ของคนที่อ่อนต่อโลก (อย่าง Scam เน้นหลอกคนแก่เอาเงินบำนาญ) แต่พอเป็นเกาหลีทำบ้าง ก็คาดหวังว่าจะมีอะไรแปลกใหม่ แต่ในช่วงแรกความแปลกใหม่ที่ว่านั้นยังไม่ได้มีอะไรมากนัก ทริกในการโกงยังดูง่ายๆ ไม่ถึงกับทำให้คนดูว้าวได้
มีแค่การใช้ศัพท์เรียกการต้มตุ๋นแบบรู้กันเองว่า “กำลังทำสารคดี” ซึ่งก็คือการเรียกภารกิจต้มตุ๋นแบบอ้อมๆ และก็มีเคสต้มตุ๋นแบบพวกขายตรงยอดมงกุฎ ต้มตุ๋นแบบขอทาน หรือทำของขายสาวกที่หลงเชื่อในศรัทธา
หน้าหนังดูเหมือนแนวชิงไหวชิงพริบในเกมต้มตุ๋น แต่ตัวเรื่องแค่เปิดมาเป็นน้ำจิ้มนำทางไปสู่เรื่องราวองค์กรอาชญากรรมที่ชักใยประเทศไว้ด้วยข้อมูลส่วนตัวตามชื่อเรื่อง แต่เรื่องก็ไม่ได้เข้มข้นอะไรมาก ออกแนวไปเรื่อยๆ กับฉากดราม่าชีวิตรักของนางเอกที่เข้ามาพัวพันติดร่างแหไปกับพระเอกด้วย และก็พยายามผูกปมตัวละครวุ่นวายเต็มไปหมด จนกลายเป็นแนวสืบสวนอาชญากรรม มากกว่าแนวมิจฉาชีพที่วางไว้ในตอนแรก