ในฉบับเล่าใหม่ของหนังไซไฟคลาสสิกอย่าง Planet of the Apes (1968) ที่ปรับเรื่องให้ทันยุคทันสมัยขึ้น ที่สำคัญจริงจังและสมจริงจนคิดว่าเกิดขึ้นได้ในอนาคตด้วย โดยในฉบับไตรภาคใหม่นี้ ได้เริ่มด้วยหนังปี 2011 ของผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง รูเพิร์ต ไวแอต โดยได้คู่สามีภรรยาที่ปลุกปั้นโปรเจ็กต์คืนชีพพิภพวินรมาแต่ต้นอย่าง ริค จาฟฟา และ อะแมนด้า ซิลเวอร์ มาทำหน้าทีเขียนบทที่รับแรงบันดาลใจมาจาก Conquest of the Planet of the Apes (1972) หนังภาคที่ 4 จากชุดต้นฉบับ แต่ก็ปรุงใหม่จนเรียกได้ว่าเป็นคนละเรื่องกันในชื่อ Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) ที่ตั้งมาให้รู้ว่าเรากำลังได้รับรู้เรื่องราวปฐมบทใหม่ที่ไม่เคยเล่ามาก่อนในหนังตระกูล Planet of the Apes นี้ครับ
ส่วนภาคต่อมาในปี 2014 อย่าง Dawn of the Planet of the Apes (รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร) ได้เปลี่ยนมือผู้กำกับมาเป็น แมตต์ รีฟส์ ที่โด่งดังมาจากหนังไซไฟกล้องส่ายอย่าง Cloverfield (2008) และในส่วนทีมเขียนบทที่โดดเด่นจากภาคแรกยังคงมาครบทั้ง ริคและอะแมนด้า นอกจากนั้นยังสมทบเพิ่มด้วย มาร์ค บอมแบค ที่ผ่านงานรีเมคหนังอย่าง Total Recall (2012) มาแล้วด้วย ซึ่งพอในภาคที่ 3 อย่าง War for the Planet of the Apes (มหาสงครามพิภพวานร) ที่กำลังเข้าฉายในบ้านเรา มาร์คก็เลยรับไม้ต่อมา จับคู่กับผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ เขียนบทแทน โดยริคกับอะแมนด้าไปนั่งโปรดิวซ์เพียงอย่างเดียว
Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร)
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากบริษัทด้านยาแห่งหนึ่งในเมืองซานฟรานซิสโก ชื่อว่า เจน-ซิส ได้ทำการทดลองยารักษาโรคอัลไซเมอร์จากเชื้อไวรัส ที่มีรหัสยาว่า ALZ-112 นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นหัวหน้าโครงการนั้นคือ วิล รอดแมน (เจมส์ ฟรานโก) ซึ่งมีพ่อป่วยด้วยโรคนี้อยู่เช่นกัน
วิลได้ทดลองตัวยาใหม่กับลิงชิมแปนซีเพศเมียตัวหนึ่งที่จับมาจากป่าแอฟริกาชื่อว่า ไบรท์อายส์ การทดลองประสบผลสำเร็จดี ไบรท์อายส์มีพัฒนาการทางสมองดีมาก ทำให้ความเฉลียวฉลาดของเธอสูงขึ้นด้วย แต่ก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นในระหว่างที่วิลกำลังนำเสนอผลการทดลอง ไบรท์อายส์เกิดคลุ้มคลั่งแหกกรงออกมา จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องฆ่าเธอเสีย และโครงการยาตัวใหม่ของวิลก็ถูกผู้บริหารอย่าง สตีเฟ่น เจคอบส์ (เดวิด โอเยโลโว) สั่งล้มไป
แต่ผู้ช่วยของวิลชื่อ แฟรงคลิน ได้พบสาเหตุที่ไบรท์อายส์อาละวาดก็เพราะเธอเกิดให้กำเนิดลิงชิมแปนซีตัวน้อยและกลัวคนจะทำร้ายลูกเธอที่แอบไว้ในคอกนั่นเอง วิลจำใจต้องรับทารกน้อยมาเลี้ยงเพื่อช่วยเหลือจากการการุณฆาตของบริษัท เขาตั้งชื่อเจ้าทารกชิมแปนซีเพศชายนั้นว่า ซีซาร์ (โมชั่นแคปโดย แอนดี้ เซอร์คิส) และภายหลังเขายังพบว่าซีซาร์ได้รับความฉลาดและพัฒนาการมาทางสายเลือดจากไบรท์อายส์ ทำให้เขามองซีซาร์เหมือนลูกตัวเองด้วย