ศาสตราจารย์ จอห์นสตัน(Billy Connolly) และทีมศึกษาโบราณคดีต่างให้ความสำคัญในการศึกษาซากปราสาทศตวรรษที่ 14อย่างเคร่งงวด แต่ศาสตราจารย์ จอห์นสตันกลับสงสัยในตัวผู้ให้ทุนในการขุดค้นซึ่งก็ คือบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น และเจ้าของบริษัท โรเบิร์ต โดนิเกอร์ (David Thewlis)
ศาสตราจารย์จอห์นสตันจึงเดินทางสู่สำนักงานใหญ่เพื่อถามคำถามบางประการ ระหว่างที่ศาสตราจารย์ไม่อยู่ เหล่านักศึกษาค้นพบห้องที่ถูกปิดตาย อังเดร มาเร็ก(Gerard Butler)และ เคต(Frances O’Connor)เดินเข้าไปในห้อง พวกเขาค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตะลึงสองอย่าง นั่นก็คือเลนตาที่ไม่น่าจะมีได้ในสมัยนั้นและไม่น่ามีใครมาที่นี้ได้ก่อน และที่น่าแปลกใจและตะลึงไปกว่านั้นก็คือ
ข้อความขอความช่วยเหลือที่เขียนด้วยมือ ลงวันที่ 2 เมษายน ปี 1357 จากศาสตราจารย์จอห์นสตัน ที่วัดกันแล้วมันเหมือนทุกประการ จะเป็นไปได้ไงกับเรื่องราวที่เกิดไปนานแล้วไม่ต่ำกว่า 400 ปี
เพื่อไขปริศนานี้ให้ได้ จึงมุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่ ที่ซึ่งพวกเขาต้องตื่นตะลึงเมื่อได้รู้เรื่องสิ่งประดิษฐ์ของโดนิเกอร์ ซึ่งเป็นเครื่องกลที่สามารถส่งวัตถุสามมิติผ่านกาลเวลาได้ และนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมศาสตราจารย์ จอห์นสตันถึงหายตัวไป ทำให้คริส(Paul Walker)ที่เป็นลูกชายศาสตราจารย์ จอห์นสตัน และพวกพ้องต้องย้อนเวลากลับไปช่วยเหลือให้กลับมาให้ได้ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือการย้อนเวลาไปที่ไม่รู้ว่าเป็นช่วงเกิดสงครามครั้ง ใหญ่ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส แล้วจะกลับสู่ศตวรรษที่ 21ได้อย่างมีชีวิตรอดได้หรือไม่
พล็อตเรื่องค่อนข้างมีความสนใจหลายอย่างตรงที่เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์แต่มีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ได้ตั้งใจ คือจะไปช่วยศจ.จอห์นสตันที่ติดในช่วงศตวรรษที่ 14 แต่กลับไปปรับเปลี่ยนประวัติศาสตร์ด้วยการไปที่อังเดรไปช่วยเลดี้แคร์(Anna Friel)ที่ตามหลักประวัติศาสตร์แล้วเลดี้แคร์ต้องตายและเป็นการทำให้เหล่า ทหารฝรั่งเศสเกิดฮึกเหิมสู้กับทหารอังกฤษจนชนะ
แต่ประเด็นคือตัวแปรที่กำหนดสงครามถูกเปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นการส่งผลต่ออนาคตด้วย ทำให้เรื่องราวต้องดำเนินไปอย่างเข้มข้นและหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดรอยแตก ระหว่างประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมให้เป็นเหมือนเช่นที่เคยเป็น ถ้าเอาเข้าจริงเนื้อเรื่องทั้งหมดที่ดำเนินมาถ้าจับต้นชนปลายจะค้นพบได้ใน ทันทีว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เพราะว่าตัวหนังได้บอกตอนจบเอาไว้แล้วเพียงทำเป็นให้ดูน่าสนใจก่อนจะเปลี่ยน เรื่องเป็นการหายตัวของศจ.จอห์นสตันที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเขาได้หายตัวไป จากปัจจุบันแต่เป็นอดีต แล้วตีเนื้อเรื่องให้เชื่อมโยงกันซึ่งเป็นจุดที่เก็บรายละเอียดได้ดีเพราะ ตัวหนังไม่ได้ทิ้งทุกอย่างให้เป็นปริศนาหรือเกิดคำถาม
ก่อนจะพบว่ามีการย้อนเวลาไปศตวรรษที่ 14ได้ต้องเริ่มปรับเค้าโครงเนื้อเรื่องด้วยการให้เจอแล่นตาและจดหมายสาส์นใน สถานที่โบราณ ซึ่งผลออกมาคือเป็นเรื่องเหลือเชื่อว่าเป็นเลนแว่นตาของศจ.จอห์นสตัน เนื่องจากเมื่อเอาแล่นตาของจริงกับอดีตมาเปรียบเทียบกันแล้วมันตรงกันทุกจุด และเนื้อหาข้างในกระดาษที่บ่งบอกขอความช่วยเหลือซึ่งไม่เป็นไปได้เพราะนั้น เป็นรายมือของศจ.จอห์นสตัน ตรงจุดนี้ที่ตัวหนังใช้ประเด็นได้ดีและเป็นข้อถกเถียงไปมาได้น่าตื่นเต้นถึง ความเป็นไปได้และไม่น่าเป็นไปได้ จนเป็นการเชื่อมโยงถึงการย้อนเวลาว่าศจ.จอห์นสตันติดอยู่ในอดีตและเป็น ศตวรรษที่ 14ช่วงที่เกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสซะด้วย แต่ประเด็นจริงคือศจ.จอห์นสตันส่งขอความช่วยเหลือด้วยจดหมายเท่านั้นโดยมัน จะไปปรากฎในอดีต แต่ปัญหาคือเรื่องเลนตาที่ไม่รู้โผล่มาได้ไงนั้นแหละที่น่าสงสัย