เรื่องย่อ The Wave (2016) มหาวิบัติสึนามิถล่มโลก
เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่กันด้วยหนังมหันตภัยระทึกขวัญที่ไม่ได้มาจากฮอลลีวูด นั่นเพราะว่า ‘The Wave มหาวิบัติสึนามิถล่มโลก’ เป็นหนังสัญชาตินอร์วีเจียน ที่นานทีปีหนเราจะได้ดูหนังจากชาติพวกเขาในโรงภาพยนตร์ไทย แถมมันยังเป็นหนังที่ทุกคนจะเข้าถึงง่ายด้วยมันจะมีภาพในหัวของผู้คนอยู่แล้วว่า จะได้เจอกับอะไร มันจึงดูเหมือนหนังสูตร…อะไรประมาณนั้น
นี่เป็นหนังมหันภัยที่พูดถึงสีนามิน้ำจืดอันเกิดจากหินถล่มลงมาจนสร้างคลื่นน้ำขนาดมหึมาถาโถมเข้าทำลายเมือง ภูมิทัศน์ที่แสนสวยงามของนอร์เวย์ในช่วงต้น กลายเป็นอีกอย่างเมื่อโดนสึนามิเข้าทำลายและเมื่อมันไม่ใช่หนังจากฮอลลีวูด มันจึงยิ่งเพิ่มความน่าดูเข้าไปอีก
เรื่องราวมันมีอยู่เพียงแค่ครอบครัวๆ หนึ่งที่กำลังจะย้ายไปอยู่ในเมืองใหญ่ พวกเขาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างไกแรงเกอร์ที่แสนสงบ โอบล้อมด้วยภูเขาสูงสวยและแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลลดเลี้ยวไปตามช่องว่างระหว่างเขา ตัวพ่อทำงานอยู่ในศูนย์ระวังภัยที่เขาลาออกเรียบร้อย เก็บของทุกอย่างเพื่อจะย้ายรัง แต่ไม่วายด้วยความรักในงานและเหตุการณ์มันช่างบังเอิญเหมาะเจาะที่มันต้องมาเกิดเอาในวันที่เขากำลังจะจากไป
เมื่อวันที่เขาอยู่ต่อนี่แหละที่มันเกิดปัญหาขึ้น หินยักษ์ที่ร่วงหล่นสู่ท้องน้ำ พวกเขามีเวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้นที่ต้องจะรีบหนีขึ้นที่สูงให้ทัน เหตุการณ์หลังจากนั้นคือช่วงเวลาบีบหัวใจ เมื่อครอบครัวต้องพลัดพรากและต้องตามหากัน ถือว่าเป็นหนังที่เรียกความสนใจใคร่รู้ของเราว่าพวกเขาจะเหลือรอดกันหรือไม่ ติดตามกันไปได้จนจบและลุ้นเอาใจช่วยอย่างที่สุด แถมมันยังไม่ใช่หนังฮอลลีวูดที่เราคุ้นเคยกันดีกับหนังสไตล์ภัยพิบัติเช่นนี้
หนังมหันตภัยมักมาพร้อมกับเหตุการณ์เอาตัวรอดของครอบครัว เพราะมันเป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้คนเอาตัวเองเข้าไปผูกกับเรื่องราวของตัวละครได้ง่ายที่สุด ทุกคนมีครอบครัว ทุกคนรักคนในครอบครัว เมื่อยามมีภัย เราต่างพยายามสุดชีวิตที่จะช่วยเหลือคนในครอบครัวของเรา และ ‘The Wave’ ก็เล่าในสิ่งนั้น
หนังแบ่งตัวเองออกเป็นช่วงๆ อย่างชัดเจน ตั้งแต่การเล่าปูเรื่องของตัวละครหลัก 4 ตัวในครอบครัวนี้ ผ่านไปถึงชีวิตการงานของ คริสเตียน (Kristoffer Joner) ผู้เป็นพ่อผู้ที่เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยรักเท่าไหร่แต่เขากลับรักงานสุดหัวใจ แม้ตัวจะลาออกไปแล้วแต่ก็ยังตามมาเตือนทุกคนไม่ยอมปล่อย แล้วเหตุการณ์ก็ผ่านไปถึงจุดเริ่มต้นของมหันตภัยครั้งนี้
เมื่อมันเกิดขึ้น ทุกคนต่างหนีตาย แต่คริสเตียนกลับเป็นคนเดียวที่ยึดโยงทุกอย่างไว้หมด เขาปลุกเตือนอดีตเพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลือทุกคนเท่าที่จะช่วยได้ จนในที่สุด เขาต้องช่วยเหลือครอบครัวตัวเอง