The Room หรือชื่อไทยว่า ห้องขอหลอน เป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยา ที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ห่างไกลผู้คน แต่บ้านหลังนั้นกลับมีประวัติถูกฆาตกรรมตายยกครัว และทั้งคู่กลับได้บังเอิญพบห้องลึกลับ ที่สามารถบันดาลได้ทุกสิ่งตามใจปรารถนา แต่มีเงื่อนไขเดียว ทั้งหมดจะสลายกลายเป็นเถ้าธุลีหากนำของที่ขอออกจากตัวบ้าน และเนื่องจากทั้งคู่เคยพยายามมีลูกกันแต่ก็ล้มเหลวและเด็กตายในท้องทั้งสองรอบ จึงทำให้ผู้เป็นแม่ขอเด็กมาจากห้องนั้น จึงทำให้เกิดความขัดแย้งและเกิดเป็นฝันร้ายของทั้งคู่
ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่หนังผี เป็นหนังแนวระทึกขวัญ มีความเป็นหนังเด็กนรกอยู่กลายๆ เหมือนกัน จริงๆ พล็อตของเรื่องนี้ก็มีทั้งความแปลกใหม่ และจำเจอยู่รวมๆ กัน แต่ภาพรวมมันก็ไม่ถือว่าแย่นะ น่าติดตามในระดับนึง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
หนังดำเนินเรื่องง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดหัว จาก A-B แล้วค่อยๆ เปิดเผยความลับออกมา (เอาจริงๆ ดูจากตัวอย่างก็แทบจะรู้ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังแล้ว) ในช่วงต้นหนังเสียบอกเล่าว่าทั้งสองสามีภรรยาได้ย้ายมาบ้านหลังนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้บอกเล่าว่าทำไมต้องย้าย หรือมันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ กันแน่ แต่หนังกลับไปเล่าความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยากับห้องนั้นเยอะมาก เยอะเกิน เยอะแบบ รู้แล้วโว้ยว่ามันขออะไรก็ได้ ขยี้จัง เลยทำให้รู้สึกว่านานไป พอถึงพาร์ทที่ขอลูกก็แบบ เอ๊า ง่ายๆ เงี้ยเลยอะนะ การตัดสินใจแต่ละอย่างของตัวละครมันไม่มีน้ำหนักสักเท่าไหร่
หลังจากนั้นพอเด็กเกิดมา หนังก็เลือกที่จะละเลยความสัมพันธ์ของแม่ลูกอีก เรายังไม่เห็น หรือยังไม่เชื่อมากพอเลยว่าผู้เป็นแม่รักเด็กคนนี้จริงๆ หรือตัวเด็กรักแม่จริงๆ หรือมีเหตุผลแฝงอะไรกันแน่ ซึ่งมันสำคัญมากๆ เพราะส่วนนี้จะเป็นตัวที่ชี้ไปถึงจุดพีคในช่วงท้ายเรื่อง มันเลยทำให้อารมณ์ การตัดสินใจ การกระทำของตัวละครเด็กในช่วงท้ายเรื่องค่อนข้างไม่มีน้ำหนักเช่นกัน มันก็พอเข้าใจแหละ แต่มันน่าจะมีน้ำหนักมากกว่านั้นสิ
นอกเหนือจากนั้นแล้ว หนังเสียเวลาไปเล่าส่วนที่ไม่จำเป็น จนหนังจบยังไม่เข้าใจเลยว่ามีทำไม กับฝ่ายพ่อที่พยายามหาที่มาที่ไปของห้อง หาจุดเชื่อมโยง แต่หนังก็ปล่อยเคว้งไว้แบบนั้นแหละ ไม่ให้คำตอบด้วยว่าเป็นไงมาไง ที่สำคัญคือหนังไม่ได้บอกเลยว่าห้องนี้มันทำงานยังไง มันเป็นแบบนั้นได้ยังไง ที่มาที่ไปมันคืออะไร รู้แต่ว่ามันใช้งานยังไงเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าหนังมันก็น่าติดตามนะ ถึงแม้เนื้อเรื่องและระหว่างทางมันจะหละหลวมและเกิดคำถามมากมายก็ตาม ส่วนทางด้านนักแสดง เรามองว่าทุกคนรับบทและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลยนะ
หนังมาเครื่องติดในช่วงท้ายแบบท้ายจริงๆ (ถึงจะไม่ว้าวขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้แย่) ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออก็โอเคนะ ถ้าตลอดทั้งเรื่องใส่อะไรมามากกว่านี้ หนังเรื่องนี้จะดีขึ้นมาอีกเยอะเลย และตอนจบเรื่องนี้เราค่อนข้างโอเคนะ ถือว่าจบและหาทางลงได้ดีเลยแหละ
สรุปแล้ว The Room ห้องขอหลอน ถึงแม้จะมีช่องโหว่ของเรื่องสะเปะสะปะรายทางและเกิดคำถามอะไรมากมายก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้แย่และถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค ถ้าให้เทียบกับหนังผีอย่าง The Grudge – บ้านผีดุ ที่เข้าฉายชนกัน ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้น่าเสียเงินเข้าไปดูมากกว่านะ