THE REVENANT กลายเป็นหนังที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีล่าสุดมากถึง 12 สาขา แต่ถึงอย่างไรก็ตามแล้วถ้าหากแฟนคอหนังตัวจริงที่ได้ไปพิสูจน์ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยสาขาตัวเองแล้วก็จะพบว่า หนังมีความโดดเด่นในแง่ของเทคนิคและ “วิธีการเล่า” เรื่องราวมากกว่าตัวบทภาพยนตร์ที่มีสาระสำคัญอยู่แค่เพียงการเอาตัวรอดและความต้องการแก้แค้นของตัวเอก
เนื้อเรื่องจริงๆของ THE REVENANT พูดถึงการอยู่รอด เมื่อนักสำรวจในตำนาน ฮิวจ์ กลาส (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ถูกหมีขย้ำขณะเดินทางในดินแดนรกร้างซึ่งยังไม่ได้รับการสำรวจ แถมเพื่อนร่วมทีมล่าสัตว์ก็ทิ้งเขาเอาไว้ กลาสซึ่งอยู่ตามลำพังในสภาพปางตายกลับปฏิเสธที่จะยอมแพ้ ด้วยความมุ่งมั่นและความรักต่อภรรยาชนพื้นเมืองและลูกชาย เขาได้เริ่มต้นมหากาพย์การเดินทางไกล 200 ไมล์ผ่านดินแดนตะวันตกอันกว้างใหญ่และไร้การควบคุมไปตามเส้นทางของชายผู้ทรยศเขา จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ (ทอม ฮาร์ดี้)
ผู้กำกับของเรื่องอย่าง อเลฮานโดร จี อินาร์ริตู ที่เพิ่งจะได้รับรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Birdman เมื่อปีก่อนยังคงใช้ “เทคนิคทางภาพยนตร์” อย่างสนุกมือ ไม่ว่าจะเป็นความบ้าคลั่งด้วยการถ่ายทำฉากในช่วงเปิดเรื่องในสไตล์ลองเทค (Long Take) ด้วยวิธีการเคลื่อนกล้องแบบไม่ตัดภาพ นั่นหมายความว่าการต่อสู้อย่างโกลาหลระหว่างชนเผ่าพื้นเมืองและทีมสำรวจนั้น บรรดานักแสดงในเรื่องจะต้องเล่นกันให้ถูกต้องตามแผนที่ได้ซักซ้อมกันไว้อย่างไม่ผิดคิว เพราะถ้าผิดพลาดเพียงเล็กน้อยนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องถ่ายทำกันใหม่นั่นเอง
ด้วยสไตล์ที่โดดเด่น แต่เนื้อเรื่องที่บางเบา THE REVENANT จึงปรากฏแผลความยืดยาดของมันให้เราเห็นตลอดความยาวตลอดสองชั่วโมงครึ่ง หลายครั้งที่ตัวหนังก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหนนอกจากจะโฟกัสให้เราเห็นแต่ทุกข์เวทนาของฮิวจ์ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลจากการโดนหมีขย้ำ แผลที่เริ่มติดเชื้อเริ่มเน่า การเอาตัวรอดจากน้ำตก ความเหน็บหนาวของหิมะ แต่ยิ่งตัวหนังพยายามโฟกัสให้เราเห็นถึงความเจ็บปวดของเขาหลายครั้งแค่ไหน คนดูก็จะยิ่งรู้สึก “เจ็บปวด” ร่วมไปกับตัวละครนี้น้อยลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะฉากในช่วงไคลแมกซ์ที่ตัวละครเอาของมีคมฟันกันอย่างดุเดือดเลือดหยด แต่เรากลับไม่รู้สึกหวาดเสียวสักเท่าไหร่ เพราะเราเห็นความเจ็บปวดของตัวละครนี้มาตลอดเรื่องแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่คนดูคงจะจดจำและคิดว่าคนส่วนมากก็คงจะเชียร์การแสดงของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ที่ต้องตรากตรำเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันโหดร้าย การกระเสือกกระสนของเขาน่าจะเป็นการแสดงที่เข้าตาของออสการ์ แต่ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้วกลับมองว่าลีโอฯ อาจจะเล่นดีจริง แต่ความละเอียดและเข้าถึงบทนั้นนักแสดงอย่างไมเคิล ฟาสเบนเดอร์จากหนังเรื่อง STEVE JOBS ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมทำได้ดีกว่า