ไม เคิล คิง ชายไม่นับถือพระเจ้าและศาสนามีครอบครัวที่สุขสันต์กับภรรยาและลูกสาวแสนน่า รัก 1 คน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับภรรยาทำให้เขาสูญเสียเธอไปอย่างไร้หนทางกลับ นั่นเป็นสาเหตุที่เขาหันมาค้นหาเรื่องราวลี้ลับและสิ่งเหนือธรรมชาติทั้งหมดในรูปแบบของการถ่ายทำหนังสารคดี
หนัง สยองขวัญ Found Footage ทุนต่ำ โดยผู้กำกับและเขียนบทเรื่องแรกโดย เดวิด จุง เรื่องนี้จัดได้ว่าไม่ธรรมดา แม้ตัวหนังอาจไม่ได้เลิศเลอเฟอร์เฟ็คต์แต่ก็มีจังหวะที่ทำให้สารอะดรีนาลิน ในบางช่วงบางตอนหลั่งไหลพรั่งพรูล้นเอ่อออกมา แต่บางช่วงที่ฤทธิ์สารแห้งเหือดก็อาจน่าเบือได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการไปได้สุดทางของการเป็นหนังสยองขวัญแนวลองของ แม้จะไม่ได้ถึงขั้นหนังใต้ดิน(ยังเข้าถึงคนได้อยู่) คล้ายคลึงกับการฟังเพลงเมทัลของวงดนตรีที่ไม่นับถือพระเจ้า ดังนั้นมันจึงมีฉากสดดิบเช่น การเย็บเนื้อสดๆ หรือการแสดงบ้าคลั่งของ ไมเคิล คิง(เชน จอห์นสัน) ที่ผู้กำกับบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละคร แจ๊ค ทอร์เรนซ์ ใน The Shining (1980) โดย ไมเคิล คิง ต้องต่อสู้กับภาวะการถูกครอบงำจากซาตาน หรือการบิดเบี้ยวจากทางร่างกายและจิตใจจนนึกถึงอาการผีเข้าแบบ The Last Exorcism (2010) อยู่เหมือนกัน
แต่สิ่งที่เรารู้สึกชอบในหนังเรื่อง นี้ คือการสรรหาเทคนิคด้านการถ่ายภาพ และการตัดต่อที่ดึงอารมณ์ประหลาดได้อยู่ รวมทั้งการพยายามผสมระหว่างภาพแบบ Home Video ที่ถ่ายครอบครัวสุขสันต์ กับ ภาพเกรนแตกแบบม้วนวิดีโอ (VHS) ที่กำลังถ่ายเรื่องราวดำมืด และจังหวะบางช่วนก็ตื่นเต้นและชวนติดตามจนมีความสนุก แม้ตัวเนื้อเรื่องจะปิดตายอยู่ในบ้านหรือมีตัวละครน้อยนิดก็ตาม แต่ถ้าบวกลบคูณหารกับเรื่องที่จะเล่า รูปแบบการเล่า และสิ่งที่น่าจะเป็นข้อจำกัดจากการถ่ายทำ เราว่ามันเป็นหนังที่มีไอเดียสร้างสรรค์ นี่ยังไม่นับการลองของด้วยการศึกษาในแบบหลักวิทยาศาสตร์ที่ให้เอาสารที่สกัด ออกมาจากกบ แล้วให้เราเสพย์เข้าไปในร่างกายซึ่งจะทำให้ร่างกายอยู่ในลักษณะกึ่งมีชีวิต กึ่งตาย จนอาจสามารถทำให้วิญญาณอื่นเข้ามาสู่ร่างกายได้ หรือเป็นภาวะที่ร่างกายเราพร้อมในการเปิดทางให้ภูติผีเข้าสิงสู่พัวพันใน กายหยาบของเรานั่นเอง
แต่เหนืออื่นใด นอกจากความรุนแรง และบ้าคลั่งในการเล่าเรื่อง ที่ใช้เทคนิคกล้องอย่างน่าคลื่นเหียนและชวนน่าอึดอัดแล้ว การใส่ Symbolic มดเข้ามาเป็นตัวการสื่อความหมาย ซึ่งเราไม่ได้สนใจหาความหมายของมันเลย เพราะสัญลักษณ์มดนั้นทำให้เรานึกถึงหนังเซอร์รีลเรื่อง Un Chien Andalou (1929) ตลอดเวลา ซึ่งเป็นหนังที่เราชอบมาก มดจึงกลายเป็นเสน่ห์ของเรื่องเล่าไปโดยปริยาย และยิ่งน่าสนใจเมื่อหนังประดิษฐ์วิชวลเอ็นเครดิตท้ายเรื่องด้วย สีแดง มด และตัวละครบ้าคลั่ง จนยกระดับความคิดสร้างสรรค์ให้หนังเพิ่มขึ้นอีกระดับ
แม้ สุดท้ายภาพรวมของหนังก็ไม่ถึงกลับน่าจดจำมาก ทำได้แค่สนุก และเพลิดเพลินไปได้บ้างเท่านั้น รวมถึงก็ต้องยอมรับว่าหนังสยองขวัญแนวนี้นั้น ยังมีภาพมองของคนไม่นับถือเป็นพระเจ้าเป็นคนอ่อนแอทางด้านจิตวิญญาณและพร้อม จะโดนลงทัณฑ์ด้วยซาตานได้ทุกเมื่อ แต่ยังดีที่หนังไม่ได้ยัดเยียดแกมสั่งสอนคนไม่นับถือศาสนาอย่างน่ารำคาญ แค่เพียงเล่าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา และแสดงให้เห็นการเปลี่ยนผ่านจากผู้ชายที่ใบหน้าเปื้อนสุขในฐานะครอบครัวจาก ช็อทแรกของหนังกลายเป็นตัวประหลาดอะไรไม่รู้เมื่อช็อทสุดท้ายมาถึง หรือเป็นภาวะการเปลี่ยนผ่านจากมนุษย์กลายเป็นสิ่งประหลาดเหมือนการ Metamorphosis ซึ่งเป็นชื่อเรื่องในนิยายของ ฟรานซ์ คาฟคา เฉกเช่นนั้นเลย