What's happening?

Video Sources 308 Views Report Error

  • The Lovebirds (2020) เดอะ เลิฟเบิร์ดส์

Synopsis

ตัวหนังพยายามรวมเอาปัญหาชีวิตของคู่รักที่แตกต่างมายัดใส่ไว้ด้วยกัน ที่น่าปวดหัวคือบทพูดทะเลาะกันในเรื่องจุบจิบเยอะจนน่ารำคาญ มีความพยายามจะให้ดูตลก แต่กลับไม่ตลกเลย มีส่วนคดีฆาตกรรมของเรื่องเท่านั้นที่พอดึงให้คนดูสงสัยติดตามไปได้จนจบ

The Lovebirds คู่รักที่ความสัมพันธ์ง่อนแง่นเต็มทีบังเอิญเข้าไปพัวพันกับเหตุฆาตกรรม จึงต้องเร่งหาตัวฆาตกรและล้างมลทินให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด แต่สถานการณ์กลับทั้งแรงและทั้งฮาไปเรื่อยๆ จนทั้งคู่ต้องคิดหาทางเอาตัวเองและความสัมพันธ์ให้รอดคืนนี้ไปได้

หนังตลกที่ตอนแรกตั้งใจนำมาลงฉายในโรง 3 เมษายน 2020 ของ Paramount Pictures แต่โดนพิษโควิดเล่นงานจนเปิดฉายตามกำหนดไม่ได้ ทาง Netflix ก็เลยช้อนซื้อมาเป็น Original ของตัวเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องดีมากเพราะบอกเลยว่าถ้าตีตั๋วเข้าไปในโรงนี่เสียดายตังกันแน่ๆ

ตัวหนังตั้งใจทำเป็นแนวตลกดราม่าคู่รัก แต่กลับเรียกเสียงฮาได้ยากเสียเหลือเกิน ปกติหนังตลกหลักๆ ฮาไม่ฮาจะอยู่ที่มุกโดนไม่โดน หรือไม่ก็ตรงกับรสนิยมคนดู (ไทย) หรือไม่ แต่เรื่องนี้มันไม่ฮาเพราะแทบไม่ได้ปล่อยมุกอะไรเลยมากกว่า ทั้งเรื่องตั้งแต่เปิดตัวก็เต็มไปด้วยบทพูดทะเลาะกันของคู่รักต่างสีผิวในเรื่อง คือตั้งใจให้เห็นความแตกต่างนั่นแหละ เพราะในเรื่องมีการพูดถึงสีผิวในเชิงตลกล้อเลียนหลายครั้ง แต่บทพูดทะเลาะกันในเรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะทั้งเรื่องส่วนตัวของทั้งคู่ เรื่องสัพเพเหระทั่วไปก็หยิบเอามาทะเลาะกัน จนน่าเบื่อเอามากๆ บอกเลยว่าไม่ได้ฮากริบ แต่แทบไม่ได้มีมุกตลกในบทพูดเลยมากกว่า ซึ่งมันกินเวลาของเรื่องไปเยอะมาก อย่างตอนแรกที่เปิดมาก็เถียงกันปาไปเกือบ 10 นาทีถึงเข้าเรื่องฆาตกรรม เรื่องจึงตั้งใจเน้นดราม่าชีวิตความสัมพันธ์ที่แยกทางกันสดๆ แต่กลับต้องมาร่วมทางแก้ไขปัญหากันอีกครั้ง และก็ตามสูตรว่าทั้งคู่ก็ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เคยน่าเบื่อเวลาทะเลากัน จนสุดท้ายก็แฮปปี้เอนดิ้งนั่นแหละ

แต่สิ่งที่ช่วยดึงให้ดูจนจบได้มากกว่าจะเป็นตัวปมปริศนาฆาตกรรมว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนขี่จักรยานที่ตายในตอนแรก ซึ่งเดายากจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตัวเรื่องพาตัวละครทั้งคู่ไปตามเบาะแสที่ได้มาทีละนิดหน่อย แต่ดูไปก็งงไปว่ากลุ่มคนที่ไปเจอแต่ละครั้งมาเกี่ยวกันได้ยังไง แถมยังมีตัวฆาตกรโหดไล่ตามเก็บพวกนี้อีก แต่หนังไม่ได้ออกแนวลุ้นอะไรมากเพราะนี่มันหนังตลก และเราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางทำให้ตัวเอกทั้งสองคนตาย เรื่องจึงเดินไปแบบง่ายๆ ให้ตัวเอกทั้งคู่รอดตายจากสถานการณ์คับขันแบบตลกๆ (แต่ไม่ค่อยตลก) ก็ยังดีที่ตัวเรื่องหลังเฉลยแล้วเข้าท่าอยู่บ้างในคำตอบที่ว่าทำไมฆาตกรมันถึงดูโหดตั้งแต่แรกแบบนี้ (ขับรถทับคนไปมาหลายรอบ ยิงเด็กวัยรุ่นตายทั้งกลุ่ม) แต่ถ้าถามหาความสมเหตุผลของคดีในเรื่องตอบเลยไม่มีครับ

ตัวเอกทั้งคู่เล่นได้ไม่เชิงเข้าขากันดีนัก แต่ก็ไม่ได้ขัดตาอะไร เพียงแต่รู้สึกว่าจงใจให้ทั้งคู่แตกต่างกันทุกอย่างจนเกินไปหน่อย เวลาที่เล่นฉากโรแมนติกก็เลยไม่รู้สึกสักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าอิงตามชื่อเรื่องนี้ที่ตั้งมาเพื่อให้เข้ากับตัวเรื่อง “เลิฟเบิร์ด” ปกติก็เป็นนกแก้วตัวเล็กที่เลือกคู่แล้วก็อยู่กันไปจนวันตายไม่แยกจากกัน (ถ้าตัวไหนตายไปก่อนอีกตัวจะหงอยเหงามาก) แล้วก็เป็นคำแสลงที่หมายถึงคู่รักที่แสดงออกต่อกันเยอะแบบล้นๆ ไม่แคร์ใครด้วย แต่ในเรื่องนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักเท่าไหร่ครับ

นี่เป็นหนังตลกที่ไม่ตลกสักเท่าไหร่ ต้องบอกว่าดีแล้วที่ไม่ได้ลงโรงฉายให้คนด่าว่าเสียดายค่าตั๋วเอาเวลาไปนอนอยู่กับบ้านดีกว่า เพราะนี่นอนดูยังรู้สึกเสียดายเวลาอยู่เหมือนกันครับ ตัวหนังพยายามรวมเอาปัญหาชีวิตของคู่รักที่แตกต่างมายัดใส่ไว้ด้วยกัน ที่น่าปวดหัวคือบทพูดทะเลาะกันในเรื่องจุบจิบเยอะจนน่ารำคาญ มีความพยายามจะให้ดูตลก แต่กลับไม่ตลกเลย มีส่วนคดีฆาตกรรมของเรื่องเท่านั้นที่พอดึงให้คนดูสงสัยติดตามไปได้จนจบ

Original title The Lovebirds (2020) เดอะ เลิฟเบิร์ดส์
IMDb Rating 8 268 votes
TMDb Rating 409 174 votes

Director

Director

Cast

Similar titles

Crown Vic (2019) คราวน์วิก
Thoroughbreds (2017) สวยพันธุ์เหมี้ยม
Rampage (2018) แรมเพจ ใหญ่ชนยักษ์
Get the Hell Out (2020) ฝ่าวิกฤติไวรัสมรณะ
World War Z (2013) มหาวิบัติสงคราม Z
Is Love You My Arrogance (2020) สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่
In Time (2011) อินไทม์ ล่าเวลาสุดนรก
Christmas Crossfire (2020) คริสต์มาสระห่ำ
Attack on Titan Chronicle (2020)
The Mortal Instruments City of Bones (2013) นักรบครึ่งเทวดา
Ironclad (2011) ทัพเหล็กโค่นอํานาจ
Fury (2014) วันปฐพีเดือด