What's happening?

Video Sources 324 Views Report Error

  • Skater Girl (2021) สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่
Skater Girl (2021) สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่

Skater Girl (2021) สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่

Your rating: 0
5 1 vote

Synopsis

ถึงตำแหน่งที่กล่าวมาจะมีได้หลายคนในหนังเรื่องหนึ่ง แต่การที่เธอเป็นผู้หญิงอินเดียที่สนใจงานด้านนี้ แล้วก็ส่งตัวเองเข้ามาอยู่ในวงการมืออาชีพก็ไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน และเรื่องนี้ก็เป็นการเดบิวต์กำกับเองเรื่องแรก (ก่อนนั้นมีแค่หนังสั้น) จากทุนเน็ตฟลิก ผนวกกับความสนใจสเก็ตของเธอเองด้วย เพราะจบเรื่องนี้เธอยังทำสารคดีสเก็ตบอร์ดในอินเดียต่ออีกเรื่อง ซึ่งก็เป็นโลเกชั่นเดียวกับในเรื่องคือ รัฐราชสถาน ที่อินเดียพึ่งเริ่มมีสนามสเก็ตบอร์ดขนาดใหญ่มาตรฐานที่แรกในรัฐ  ซึ่ง Skater Girl ก็เป็นกึ่งๆ เรื่องจริง บอกเล่าที่มาของสนามสเก็ตแห่งนี้ ที่สร้างไปพร้อมกับหนังเรื่องนี้ด้วย (เข้าใจว่าใช้ทุนจากหนังมาสร้างเพื่อใช้จริงต่อไปด้วย)

ต้องบอกก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังขายการเล่นท่าสเก็ตไม่ใช่หนังโชว์ตัวเอกเทพมีพรสวรรค์หรือเป็นหนังแข่งขันจริงจังแต่นี่เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวการลุกขึ้นคิดฝันของเด็กผู้หญิงอินเดียที่ถูกตีกรอบด้วยสังคมชายเป็นใหญ่ รวมถึงกฎหมาย ค่านิยม วัฒนธรรม ชนชั้นวรรณะความยากไร้ ทั้งหมดคือปัญหาที่กดทับเด็กผู้หญิงอินเดียอยู่จริงๆไม่ต้องพูดถึงการลุกขึ้นมาปฎิบัติ แม้แต่ความคิดก็อาจจะไม่มีเพราะเด็กผู้หญิงอินเดียถูกปิดกั้นโอกาสและความรู้จนไร้จินตนาการความฝันกับอนาคตของตัวเองซึ่งเรื่องนี้มีความเหมือนกัณจัญศักเสนาติดปีกสู่ฝันGUNJAN SAXENA: The Kargil Girlซึ่งถ้าใครชอบนี่ปิดรีวิวนี้แล้วลุกไปดู Skater Girl ได้เลย ซึ่งปมความฝันของเด็กผู้หญิงนี้ก็มีหนังอินเดียดังอย่างDangalปล้ำฝันสนั่นโลกหนังกำเนิดนักกีฬามวยปล้ำหญิงที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกสร้างจากเรื่องจริงจนทำให้เด็กผู้หญิงอินเดียหันมาสนใจมวยปล้ำกันทั่วประเทศ

แน่นอนว่าหนังหยิบเอากระแสสเก็ตบอร์ดมาเป็นเมนหลักด้วย ซึ่งไทยก็ได้เห็นกันทั่วไป ในอินเดียเองก็เริ่มเป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่หนังเลือกโฟกัสเรื่องราวที่หมู่บ้านยากจนแห่งหนึ่งของอินเดีย ที่ “เพรนา” เด็กสาวในครอบครัวคนจนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ได้มาพบกับ “เจสซิก้า” สถาปนิกสาวที่ลาพักร้อนจากลอนดอนมายังอินเดีย และมาที่หมู่บ้านนี้ด้วยจุดประสงค์ส่วนตัวบางอย่าง สาวอินเดียจากต่างประเทศที่ไม่ได้ถูกตีกรอบชีวิตเมื่อมาพบกับเพรนาที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรในอนาคตได้ แค่มีชีวิตไปวันๆ ก็ลำบากมากอยู่แล้ว ทำให้เจสซิก้าอยากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และการมาของเพื่อนเจสซิก้าที่เป็นนักสเก็ต ก็ทำให้ทุกอย่างในหมู่บ้านนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ตัวเอกเพรนาไม่ใช่สาววัยรุ่นที่หน้าตาดี มีเสน่ห์ หรือมีพรสวรรค์ในทางสเก็ตก็ไม่ใช่ รับบทโดย Rachel Saanchita Gupta เล่นเรื่องนี้เรื่องแรก ตัวเรื่องสร้างให้เธอคือเด็กผู้หญิงธรรมดามาก แถมไร้ซึ่งความรู้ ขนาดลอนดอนก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ไหน ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ อะไรคือสเก็ตบอร์ดก็ไม่รู้จักมาก่อน จนการมาของเจสสิก้าสร้างโอกาสที่เธอไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะทำได้ขึ้นมา ซึ่งสเก็ตคือการทำตามความฝันครั้งแรกของเธอว่าอยากเล่นสเก็ต อยากมีอิสระ อยากรู้จักโลกภายนอกผ่านการดูยูทูบ ทำให้เพรนาได้รับโอกาสใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต ตัวเรื่องเป็นแนว Coming of age ที่มีสเก็ตเป็นตัวเชื่อมไปสู่ความฝันของเด็กสาวจนๆ คนหนึ่งที่ไม่เคยได้รับอะไรมาก่อนในชีวิต

ตัวเรื่องถ่ายทอดปัญหารากเหง้าของเพรนาที่เริ่มมาจากพ่อกดทับทุกอย่างในครอบครัวไว้ แค่ภรรยาของไปทำงานในโรงงานก็ยังไม่ได้ เพราะคิดว่าจะทำให้คนในหมู่บ้านดูถูกที่เลี้ยงเมียไม่ได้ แต่กับเพรนาที่เป็นลูกสาวยิ่งเลวร้ายกว่า จากความคิดที่ว่าลูกสาวมีหน้าที่แค่แต่งงานออกเรือนไวๆ การอยู่ของลูกคือภาระของครอบครัว พ่อรักน้องชายมากกว่า เพรนาคือตัวสร้างปัญหาให้บ้าน ยิ่งการเล่นสเก็ตนี่ก็เป็นเหมือนยิ่งสร้างความอับอายให้พ่อ (ว่าเด็กผู้หญิงเล่นของเล่นเด็กผู้ชาย) ส่วนแม่แม้จะมีความอ่อนโยนให้เพรนา แต่เธอก็โดนกดทับมาอีกทีจนมาใช้กับลูกแบบไม่ตั้งใจ

อย่างการรับของคนแปลกหน้าที่แม่ห้ามเสมอ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครให้อะไรเปล่าๆ โดยไม่หวัง การได้มาซึ่งชุดนักเรียน สเก็ตบอร์ด จากเจสสิก้า หรือการมีความรักต่างวรรณะกับพราหมณ์ผ่านหนุ่มที่เปิดตัวว่าชอบเพรนา คือความรู้สึกไม่ดีที่เธอไม่อยากให้ลูกรับเข้ามาในบ้าน ก็เลยกลายเป็นการปิดโอกาสใหม่ๆ ทุกอย่างในชีวิตจากลูกไปโดยไม่รู้ตัวว่าเธอเลี้ยงลูกแบบผิดๆ มาก่อน (แม้ตัวเองจะเคยโดนมาก่อนเช่นกัน)

ในส่วนของเจสซิก้า รับบทโดย Amy Maghera คาแรกเตอร์กับรายละเอียดในเรื่องเชื่อว่าถ่ายทอดมาจากชีวิตจริงของผู้กำกับสาว Manjari Makijany ด้วยแน่ๆ เพราะหลายอย่างมันค่อนข้างคล้ายกับโปรไฟล์ชีวิตของเธอที่ผลักดันตัวตนจนกลายเป็นมืออาชีพ จากโอกาสที่เธอมีอยู่ในครอบครัวผู้สร้างหนังในมุมไบอยู่แล้ว ซึ่งเจสซิก้าเองคือผู้หญิงที่หลุดกรอบปมปัญหาส่วนใหญ่ในอินเดียไปได้แล้ว แต่การมาอินเดียครั้งนี้คือเพื่อทำความเข้าใจชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษของเธอในอินเดีย ที่ซึ่งไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนจนถึงปัจจุบันนี้ ปัญหาการปิดกั้นโอกาสในชีวิตของผู้หญิงก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม เหมือนวรรณะในอินเดียที่ไม่มีใครพูดถึง แต่กลับปฏิบัติกันอยู่แบบเดิมไม่เปลี่ยน มีสิ่งของสาธารณะแบ่งแยกชนชั้น

แบ่งแยกการคบหาเพื่อนในหมู่บ้าน ซึ่งตัวละครเจสซิก้าก็ได้รับรู้ปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเองจากการพยายามให้เด็กๆ ได้เล่นสเก็ตที่พวกเขาชอบ โดยต้องต่อสู้กับคนในชุมชนที่มองเธอว่าเป็นคนแปลกหน้าที่นำมาซึ่งปัญหาจากชาติตะวันตก และพยายามบีบให้เธอยอมรับกฎชุมชนในอินเดีย แม้สเก็ตไม่ผิดกฎหมาย แต่ชุมชนนี้ไม่ต้อนรับ ซึ่งหนังใช้เธอเป็นตัวเดินเรื่องตีแผ่ปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ชนชั้น ความจน การศึกษา ไปจนถึงการเมืองที่เธอต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเมื่อพยายามสร้างลานสเก็ตบอร์ดขึ้นมาในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งมีเกร็ดๆ เสริมว่าลานสเก็ตขนาดใหญ่ที่สร้างในเรื่องนี้ก็ได้กลายมาเป็นแห่งแรกของจริงใน รัฐราชสถาน ของอินเดียด้วย

ตัวหนังเป็นการต่อสู้ของทั้งเพรนากับเจสซิก้าในคนละบริบทของปัญหา ซึ่งตัวเรื่องก็เดินไปแบบล้มลุกคลุกคลาน มีการบาดเจ็บจากปัญหาต่างๆ ทั้งทางจิตใจและร่างกาย ซึ่งแม้ไม่ใช่ฉากที่บีบคั้นอารมณ์อะไรมาก แต่หนังก็เดินไปแบบดูสนุกทำให้คนดูเอาใจช่วยทั้งคู่ซึ่งมีบทสลับไปมาพอๆ กัน ถือว่าเป็นนางเอกทั้งคู่ แต่เรื่องจะไปปิดท้ายที่งานแต่งแบบคลุมถุงชนของเพรนา ที่เธอต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตว่าจะจำยอมปิดโอกาสตัวเองต่อไป

หรือจะเลือกขบถหักดิบกับพ่อแม่และสังคมชุมชน ซึ่งหนังก็ใช้ปมความกลัวล้มท่ายากของเพรนามาเป็นการก้าวข้ามฝ่าไปพร้อมกันกับปัญหาในชีวิต ซึ่งก็เป็นไปตามสูตรสำเร็จฟีลกู๊ดทั่วไป อาจจะเบาๆ ง่ายๆ ไปสักหน่อย แต่ผู้ชมก็คงไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะต้องการตอนจบแบบนี้อยู่แล้วเช่นกัน

อีกสิ่งที่เรื่องนี้แตกต่างและทำได้ดีเลยคือการนำเพลงประกอบทั้งเสียงร้องฮินดีกับอังกฤษมาไว้ในเรื่อง (แต่ไม่มีฉากเต้น) ตรงนี้น่าจะมาจากประสบการณ์ของผู้กำกับ Manjari Makijany ที่ทำงานร่วมกับฮอลลีวู๊ดมาตลอด เธอก็เลยเหมือนเป็นคนที่ผสานสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งฟังและดูเผินๆ นี่คือหนังสูตรของดิสนีย์เต็มๆ เพลงก็มีทำนองจังหวะใสๆ ฟังสนุก ช่วงเศร้าก็เป็นเพลงชวนอินประกอบอารมณ์ได้ดีเลย ซึ่งเน็ตฟลิกซ์มีคำแปลเนื้อร้องไว้ทั้งหมด รวมถึงเสียงพากย์ไทยด้วย ซึ่งปกติหาได้ยากในหนังอินเดียของเน็ตฟลิก แสดงว่าเป็นงานที่เน็ตฟลิกซ์ตั้งใจทำมากกว่าปกติ

งานภาพของเรื่องนี้ก็มีส่วนช่วยส่งเสริมเรื่องราวขึ้นมากด้วย ในเรื่องเป็นฉากในชนบทที่ค่อนข้างแร้นแค้นของอินเดีย หลายอย่างดูเสื่อมโทรม แม้แต่บ้านยังไม่มีมุงหลังคา (ใช้ก้อนหินเรียงปิดไว้แทนกระเบื้อง) ฉากเล่นสเก็ตของกลุ่มเด็กร่อนไปในชุมชนเป็นการถ่ายทอดวิวต่างๆ มาให้คนดูได้เห็นไปด้วย ซึ่งก็ถือว่าถ่ายได้สวยเลยทีเดียว แม้จะไม่มีฉากไล่ตามผู้เล่นสเก็ตสวยๆ ให้ดูเร้าใจ แต่ก็เข้าใจได้ว่าตัวเรื่องไม่ได้เป็นธรมโชว์การเล่นสเก็ตเทพสวยๆ อะไรแบบนั้น

นี่เป็นหนังออริจินอลเน็ตฟลิกที่ได้ผู้กำกับฝีมือดีใส่ใจมาทำจริงๆ ผลงานที่ออกมาเลยแตกต่างจากปกติทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าสำหรับคนดูหนังบอลลีวู๊ด (หนังโรงอินเดีย) เรื่องอาจจะไม่สุด และดูเป็นฝรั่งมากกว่าสไตล์อินเดีย รวมถึงความยาว 1 ชั่ว 47 นาทีก็ดูยังไม่พออิ่ม หลายฉากยังสามารถขยี้ลากปมให้เข้มข้นได้มากกว่านี้ แต่ในฐานะหนังอินเดียจากเน็ตฟลิกซ์ทำ นี่ก็เป็นผลงานที่ดีและควรทดลองรับชมกันเลย เราจะได้ดูหนังเน็ตฟลิกซ์อินเดียที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นต่อไปอีกครับ

Original title Skater Girl (2021) สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่

Director

Director

Cast

Similar titles

Faces in the Crowd (2011) ซ่อนผวา…รอเชือด
This is where I Leave You (2014) ครอบครัวอลวน
Proof of Life (2000) ยุทธการวิกฤตตัวประกันข้ามโลก
The Water Diviner (2014) จอมคนหัวใจเทพ
Native Son (2019) เนื้อแท้ของพ่อ
Christine (2016) คริสทีน นักข่าวสาว ฉาวช็อคโลก
The Mustang (2019) ม้าผู้สง่า
Frequency (2000) เจาะเวลาผ่าความถี่ฆ่า
Aladdin (2019) อะลาดิน
Bigfoot Family (2020)
All Roads Lead to Rome (2015) รักยุ่งยุ่ง พุ่งไปโรม
13 Hours (2016) 13 ชม. ทหารลับแห่งเบนกาซี