What's happening?

Video Sources 394 Views Report Error

  • Run All Night (2015) คืนวิ่งทะลวงเดือด
Run All Night (2015) คืนวิ่งทะลวงเดือด

Run All Night (2015) คืนวิ่งทะลวงเดือด

Your rating: 0
8 1 vote

Synopsis

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ สำหรับวันนี้ก็ได้มีโอกาสเอาหนังมารีวิวอีกกับเรื่อง Run All Night แสดงนำโดย เลียม นีสัน ซึ่งแค่เห็นหน้าค่าตานักแสดงนำกับชื่อเรื่อง ไม่ต้องดู trailer ก็เดาออกว่าเรื่องจะมาแนวไหนใช่มั้ยละครับ ดูยังไงๆ ก็ไม่หลุดแนว The Taken แน่นอน งั้นไปดู trailer กันสักแปบนึงเพื่อความชัวร์นะครับ

 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 

ทีนี้ก็มาสรุปความเข้าใจในเรื่องย่อกันเล็กน้อยนะครับ เรื่องมันก็ประมาณว่า เลียม นีสันของเราที่ได้รับบทเป็นจิมมี่ คอนลอนมือปืนคู่ใจเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลคนนึง ซึ่งอยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องให้ต้องฆ่าเจ้าลูกชายตัวแสบของเพื่อนรักที่เป็นเจ้านายตัวเองเข้า และแน่นอนว่าจากเจ้านายที่เป็นเพื่อนรักกันมายาวนานก็ต้องแตกหักลงกลายเป็นคู่อาฆาตที่พร้อมไล่ล่าล้างแค้นในทันที และการล้างแค้นก็มาลงที่ลูกชายของจิมมี่เข้า ด้วยความเป็นพ่อจึงต้องปกป้องลูกสุดชีวิต ทั้งฝ่ายที่ไล่ล่าและฝ่ายถูกไล่ล่าต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ “ทุกอย่างต้องจบลงในคืนเดียว” ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่มาของชื่อ Run All Night

 

ทีนี้ก็มารีวิวกันสักหน่อย ขอแยกออกเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและแยกทีละประเด็นนะครับ

 

  1. เป็นสไตล์ไปแล้วล่ะเนาะสำหรับบท “ดราม่าแล้วค่อยไล่ล่าลุย” สำหรับเลียม นีสัน ดังจะเห็นได้จาก The Taken ทั้งสามภาคและ Run All Night ก็เช่นกัน เล่าดราม่าชีวิตครอบครัวปูเรื่องกันตั้งแต่แรกอยู่ประมาณ 20 นาทีก่อนจะเริ่มเข้าสู่บทบู๊ลุยไล่ล่า ซิ่งรถ สาดกระสุน รัวหมัด-เข่า-ศอก พ่อคนนี้นี่เข้ากับแนวนี้ซะเหลือเกิน

 

  1. เรื่องนี้ดราม่ามากกว่า The Taken ภาคไหนๆ เสียอีก เพราะแทรกมุมดราม่าชีวิตครอบครัวคอนลอนไว้ทั้งเรื่อง (ปมชีวิตกับความหลังของจิมมี่ คอลลอนมีเยอะ) นอกจากนี้ยังมีดราม่าเล็กๆ กับเพื่อนรักที่กลายมาเป็นศัตรูชั่วข้ามคืนอีกด้วย

 

แม้ความเป็นพ่อคนใน The Taken กับใน Run All Night จะสะท้อนผ่านการสู้แบบหัวเด็ดตีนขาดเพื่อลูกตัวเอง แต่ก็มีความแตกต่างที่พื้นเพและลักษณะของตัวละคร เรื่องนึงอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษ อีกเรื่องมือปืนคู่ใจเจ้าพ่อที่สังหารตามบัญชา รอดกฏหมายแต่มีความทุกข์ติดอยู่ในใจมาตลอด จริงๆ ไบรอัน มิลส์กับจิมมี่ คอนลอนก็เหมือนเป็นหยินหยางของกันและกัน สองคนอยู่คนละมุมคนละด้านแต่ถ่ายทอดพฤติกรรมออกมาไม่ต่างกัน (ก็คนแสดงคนเดียวกันนี่ 5555+) การที่เราดูแล้วลองพิจารณาเอาพล้อตของ The Taken กับ Run All Night มาซ้อนทับกันอาจทำให้เราได้ความรู้สึกอะไรบางอย่างออกมาจากหนังลองดูครับว่ารู้สึกอะไร

 

 

  1. ด้วยความที่หนังมันคือ Run All Night ทุกอย่างต้องจบในคืนเดียว มันเลยทำให้เหมือนกันว่าช่วงเวลาที่เราดูมันผ่านไปพร้อมกับเวลาในหนังเลยทีเดียว เราได้เห็นตั้งแต่ก่อนเกิดปมหลัก ปมหลักประทุขึ้น การไล่ล่า การหนี การต่อสู้เพื่อปกป้อง และการรุกลับใน เวลา 1 ชั่วโมง 54 นาที อารมณ์ร่วมไปกับหนังจึงค่อนข้างได้มากกว่าใน The Taken เข้าใจอารมณ์การพยายามปกป้องคนที่รัก การต้องหนี การคิดหาทางออก ทั้งหมดที่ต้องเกิดขึ้นพร้อมๆ กันในชั่วข้ามคืนเลยล่ะครับ

Director

Director

Cast

Similar titles

Looking Glass (2018) กระจกสะท้อนเงา
Kong Skull Island (2017) คอง มหาภัยเกาะกะโหลก
Deja Vu (2006) ภารกิจเดือด ล่าทะลุเวลา
Still Missing (2020) พราก
Eternal Beauty (2019)
Possessor (2020)
Fifty Shades of Grey (2015) ฟิฟตี้เชดส์ออฟเกรย์
Mandy (2018) แมนดี้ ล่าแค้นลัทธิคลั่ง
A Special Lady (2017) เหนือกว่าสตรี
Galveston (2018) ไถ่เธอที่เมืองบาป
Live by Night (2016) ลีฟ บาย ไนท์
Pain and Gain (2013) ไม่เจ็บ ไม่รวย