Max Steel เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เพราะส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ ตั้งแต่ทีเซอร์ยันชื่อหนังภาษาไทย! ซึ่งภาพรวมของมันก็ดำเนินไปตามแบบสไตล์หนังสเกลเล็กทั่วไป การปะติดปะต่อเรื่องในช่วงแรกๆ ยังเหวอๆ หลวมๆ การปูเรื่องก็เบาบาง รวมทั้งการแสดงของ เบน วินเซล ที่ยังใหม่ด้วยกับแวดวงจอเงิน ในช่วงเริ่มต้นมันเลยยังดูแล้วไม่ไหลลื่น อันนี้ที่สังเกตชัดๆ หน่อยคือจะเป็นเรื่องแววตาและการเค้นอารมณ์ยังส่งไปไม่ถึง อย่างการพบกับ
สตีล หุ่นยนต์เอเลียนครั้งแรกในฐานะเด็กหนุ่ม แต่เขาถ่ายทอดความตื่นเต้นตกใจออกมาแล้วมันไม่ให้เรารู้สึกเชื่อว่าเขากำลังตื่นเต้นตกใจจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น พอถึงคิวหลังๆ ตั้งแต่กลางเรื่องมาก็เหมือนว่าจะเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แม้ว่าถ้าพูดตามตรงแล้ว เบน อาจไม่ได้มีเสน่ห์ออร่าโดดออกมาแบบเดียวกับ แอนดรูว์ การ์ฟิว หรือ ไชอา เลอบัฟ กับบทบาทคล้ายๆ กันนี้ใน Spider man หรือ Transformer
อย่างไรก็ตาม Max Steel ก็ยังมีจุดน่าสนใจตรงที่มันทำได้ดีในพาร์ทแอ็คชันโดยเฉพาะเจ้าหุ่นยนต์ สตีล นี่ผมถือว่ามันเป็นตัวชูโรงชงรสให้หนังน่าดูมากขึ้นเยอะ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือฉากซีจีในเรื่องนี้ทำได้โดดเด่นเนียนตาออกนอกหน้าชนิดที่คุณต้องนึกถึงมันเป็นข้อดีข้อแรกๆ ของหนังเรื่องนี้เลย มันเลยส่งให้ชุดเกราะเทอร์โบอันลือลั่นดูเนี๊ยบและเท่ดึงความเป็น superhero ออกมาได้เยี่ยม และมันก็เป็นจุดสำคัญที่หนังแอ็คชัน-ไซไฟชั้นดีควรมีเสียด้วย ส่วนนี้เรียกคะแนนกลับมาได้พอสมควร
นอกจากนี้ ตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นไป หนังเริ่มเดินเรื่องได้น่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะปมการตามหาความจริงในการตายของพ่อของแม็กซ์ รวมทั้งการเฉลยศัตรูที่แท้จริงในเรื่องทำได้ดูตื่นเต้น แม้จะมีสะดุดไปบางช่วงที่มีความเนือยเข้ามาเป็นระยะ และแอบเสียดายกับบทของนางเอก โซเฟีย (อนา วิลลาเฟน) ที่แทบจะไม่มีบทบาทสำคัญในเรื่องเลย แต่รวมๆ แล้วหนังเดินเรื่องกระชับ รวดเร็ว พล๊อตหนังอาจจะก๊องแก๊งแต่ดูไปดูมาก็เริ่มสนุกเกินคาด ไม่ต้องง่วงเหงาหาวนอน คล้ายกับว่าผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โยสท์ (Thor: The Dark World) เองก็อยากให้ถึงช่วงบู๊เร็วๆ กันเสียทีเหมือนกันแหละ
จากช่วงท้ายของ Max Steel พอจะเดาได้ว่าอาจมีภาคต่อ ถ้าหากมองมันเป็นสินค้า มันก็ยังมีความเท่ของชุดเกราะเทอร์โบ และเจ้าหุ่นยนต์ สตีล ให้ขายต่อเป็นแฟรนไชส์ได้ไม่เคอะเขิน สรุปว่ามันเป็นหนังแอ็คชันไซไฟที่เด็กดูง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ถ้าเป็นผู้ใหญ่โตมาหน่อยก็ดูแก้เซ็งครั้งเดียวจบ แยกย้ายกลับบ้านนอน เป็นหนังสนุกๆ เรื่องหนึ่งที่มอบความสุขให้วันนี้ แล้วอีกไม่กี่เดือนคุณก็ลืม