เรื่องย่อ James Bond 007 Quantum of Solace (2008) เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 22
Quantum of Solace สานต่อการผจญภัยสุดระทึกของเจมส์ บอนด์ (แดเนียล เคร็ก) ใน Casino Royale หลังจากถูกเวสเปอร์หญิงสาวที่เขารักหักหลัง 007 พยายามต่อสู้กับแรงกระตุ้นที่จะทำให้ภารกิจล่าสุดของเขากลายเป็นเรื่องส่วนตัว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเผยความจริง บอนด์ และ เอ็ม (จูดี้ เดนช์) ได้สอบสวนมิสเตอร์ ไวท์ (เจสเปอร์ คริสเตนเซ่น) ผู้ที่เผยว่า องค์กรที่แบล็กเมล์เวสเปอร์นั้นซับซ้อนและอันตรายกว่าที่ใคร ๆ คาดคิด
มีความปลอบใจในการแก้แค้นหรือไม่? เจมส์บอนด์ (แดเนียลเครก) และเอ็ม (Dame Judi Dench) เข้าร่วมเครือข่ายอำนาจและการคอรัปชั่นระหว่างประเทศที่มีเงามืด ในขณะที่บอนด์ไล่ตามตัวแทนของการพยายามลอบสังหาร M ถนนทุกสายมุ่งไปสู่ Dominic Greene (Mathieu Amalric) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวที่มีชื่อเสียงระดับโลก Greene ซึ่งเป็นผลงานที่น่ารังเกียจมีเจตนาที่จะรักษาพื้นที่ที่แห้งแล้งของโบลิเวียเพื่อแลกกับการช่วยเหลือผู้ที่แข็งแกร่งในการทำ
รัฐประหารที่นั่น C.I.A. มองไปทางอื่นมีเพียงบอนด์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากสายลับที่เกษียณแล้วและจากความงามลึกลับเท่านั้นที่ยืนขวางทางของกรีน M สงสัยว่าเธอจะเชื่อใจบอนด์ได้หรือไม่หรือว่าความพยาบาทครอบครองเขา ยิ่งไปกว่านั้นใครสามารถดึงดูดให้บอนด์มีชีวิตเพื่อเล่าเรื่องได้หรือไม่?
เจมส์ บอนด์ สายลับ MI6 ขับรถจากทะเลสาบการ์ดาโดยมีมิสเตอร์ไวต์อยู่ท้ายรถ เขาถูกคนร้ายขับรถไล่ตามแต่หนีรอดมาได้ บอนด์พาตัวไวต์ไปหา M หัวหน้าของเขาที่เมืองซีเอนา ประเทศอิตาลี M สอบสวนไวต์ถึงองค์กร “ควอนตัม” แต่ถูกมิตเชลล์ สายลับสองหน้าของควอนตัมที่ทำงานเป็นบอดี้การ์ดของตนโจมตี ไวต์หนีไปได้ ส่วนบอนด์ไล่ตามมิตเชลล์ไปและยิงเขาเสียชีวิต บอนด์และ M กลับไปที่ลอนดอนและค้นห้องพักของมิตเชลล์ ซึ่งชี้ไปที่เฮติ บอนด์ไปที่นั่นและสู้กับสเลท นักฆ่าที่ถูกส่งมาฆ่าคามิลล์ คนรักของนักธุรกิจ โดมินิค กรีน บอนด์สืบจนพบว่ากรีนให้ความช่วยเหลือนายพลเมดราโน อดีตนายพลชาวโบลิเวียที่ต้องการขึ้นเป็นประธานาธิบดี และนายพลเมดราโนยังเป็นผู้ที่ฆ่าครอบครัวของคามิลล์
บอนด์ช่วยคามิลล์จากนายพลเมดราโน ก่อนจะตามกรีนไปที่การแสดง ตอสกา ที่เมืองเบรเกนซ์ ประเทศออสเตรีย บอนด์ลอบฟังการประชุมและระบุตัวสมาชิกของควอนตัม แต่ถูกจับได้ ระหว่างหลบหนี เฮนส์ บอดี้การ์ดของสมาชิกควอนตัมถูกฆ่าหลังสู้กับบอนด์ M จึงอนุมานว่าบอนด์ฆ่าเขาและสั่งยกเลิกพาสพอร์ตและบัตรเครดิตของบอนด์ บอนด์เดินทางไปที่อิตาลีเพื่อพบกับเพื่อนเก่า เรอเน แมตธิส ที่นั่นบอนด์พบกับสตรอเบอรี ฟิลด์ส เจ้าหน้าที่ที่ M ส่งมาเพื่อพาตัวบอนด์กลับลอนดอน แต่บอนด์ล่อลวงเธอและไปที่งานระดมทุนของกรีน บอนด์พบกับคามิลล์อีกครั้งและรอดจากการต่อสู้กับตำรวจโบลิเวียที่ทำงานให้นายพลเมดราโน แต่แมตธิสเสียชีวิต
วันต่อมา บอนด์และคามิลล์ขึ้นเครื่องบินเพื่อสำรวจพื้นที่ที่องค์กรควอนตัมถือครอง เครื่องบินของพวกเขาถูกยิงตก บอนด์และคามิลล์กระโดดร่มมาลงที่หลุมยุบและพบความจริงว่าองค์กรควอนตัมตั้งใจจะผูกขาดการจัดการแหล่งน้ำในโบลิเวียเพื่อประโยชน์ของตนเอง บอนด์กลับไปที่เมืองลาปาซและพบ M ซึ่งบอกว่าฟิลด์สถูกฆ่าโดยมีน้ำมันชโลมอยู่ทั่วร่าง บอนด์ไปที่บาร์เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ CIA เฟลิกซ์ เลเทอร์ ผู้ซึ่งบอกบอนด์ว่ากรีนและนายพลเมดราโนจะพบกันที่โรงแรมในทะเลทรายอาตากามา
ที่โรงแรมในทะเลทราย กรีนซึ่งตอนนี้ถือครองสิทธิ์ควบคุมแหล่งน้ำส่วนใหญ่ในโบลิเวีย ยื่นคำขาดให้เขาเป็นผู้เดียวที่สามารถควบคุมการซื้อขายน้ำได้ ด้านบอนด์ลอบเข้าไปในโรงแรมและยิงหัวหน้าตำรวจที่ทรยศแมตธิสเสียชีวิต บอนด์สู้กับกรีน ส่วนคามิลล์สู้กับนายพลเมดราโน ซึ่งถูกคามิลล์ยิงเสียชีวิต ก่อนที่บอนด์ คามิลล์และกรีนที่ถูกจับตัวได้จะหนีออกจากโรงแรมที่กำลังไฟไหม้ บอนด์เค้นข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรควอนตัมกับกรีน ก่อนจะปล่อยกรีนทิ้งไว้กลางทะเลทรายกับน้ำมันเครื่องหนึ่งกระป๋อง
บอนด์เดินทางไปที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซียเพื่อพบกับยูซุฟ คาบิรา อดีตคนรักของเวสเปอร์ ลินด์ที่กำลังล่อลวงสายลับชาวแคนาดา บอนด์ไว้ชีวิตคาบิราและออกมาเจอ M ซึ่งแจ้งข่าวว่ากรีนถูกพบเป็นศพอยู่กลางทะเลทราย ถูกยิงสองนัดและมีน้ำมันเครื่องอยู่ในกระเพาะอาหาร M ขอให้บอนด์กลับมาทำงาน แต่บอนด์เดินจากไปพร้อมกับตอบว่าเขาไม่เคยลาออก ก่อนจะทิ้งสร้อยของเวสเปอร์ลงบนหิมะ