หลังถูกหักหลังจากนายจ้าง รอย (เบน ฟอสเตอร์)ต้องหนีการตามล่าโดยจำใจต้องพา ร็อคกี้ (แอล แฟนนิ่ง) ตัวประกันในที่เกิดเหตุหนีไปสู่เมือง กัลเวสตัน โดยไม่รู้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเขาและเธอไปตลอดกาล
บอกตามตรงว่าหนังดราม่าหนักๆแบบนี้ คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะกำกับโดยนักแสดงสาวสวย เมลานี โลรองต์ ที่ผมเพิ่งดู Mia and the white lion ที่เธอแสดงไปเมื่อปลายปี 2018 เพราะตัวหนังเต็มไปด้วยความมืดหม่นหดหู่ แต่ยังแฝงความอบอุ่นไว้ได้อย่างประหลาด โดยเมลานี สามารถเล่าเรื่องการเดินทางของอาชญากรอย่าง รอย และ สาวกร้านโลกอย่าง ร็อคกี้ ได้อย่างเข้าอกเข้าใจ โดยได้นักแสดงคุณภาพทั้งเบน ฟอสเตอร์ ที่สามารถถ่ายทอดตัวละครที่แทบไม่เหลือความหวังในชีวิต และแอล แฟนนิ่ง ที่นอกจากเสน่ห์บนจออันล้นเหลือจากชุดสีโทนร้อนที่ขับกับผิวขาวชวนมอง ไปสู่การถ่ายทอดความเจ็บปวดและรอยแผลในอดีตได้อย่างเข้าอกเข้าใจ
นอกจากส่วนแอ็คติ้งแล้ว เมลานียังสามารถกำหนดทิศทางงานภาพได้อย่างชาญฉลาด ทั้งการกำหนดโทนความสว่างให้เข้ากับชะตาชีวิตตัวละคร งานกำกับศิลป์ที่แม่นยำทั้งการกำหนดสีของคอสตูมให้สื่อความหมายโดยเฉพาะชุดแดงของร็อคกี้กับชุดดำของรอย และการกำหนดทิศทางการตัดต่อให้เล่าเรื่องตัดสลับกึ่งจริงกึ่งฝันในตอนท้ายได้อย่างเปี่ยมความหมายและคุณค่าทางศิลปะได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือบทหนังที่ได้ นิค พิซโซแลตโต ผู้เขียนบท True Detective ซีรีส์สืบสวนแฝงปรัชญาอันล้ำลึก ซึ่งบทหนังของ นิค สามารถบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคนชีวิตพัง2คนที่จำต้องลงเรือลำเดียวกันได้อย่างเปี่ยมอารมณ์ร่วมและไม่ประนีประนอมต่อความรู้สึกคนดู ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้ Galveston กลายเป็นงานดราม่า-อาชญากรรมที่น่าจดจำได้อย่างประหลาดไปเมื่อปลายปี 2018 เพราะตัวหนังเต็มไปด้วยความมืดหม่นหดหู่ แต่ยังแฝงความอบอุ่นไว้ได้อย่างประหลาด โดยเมลานี สามารถเล่าเรื่องการเดินทางของอาชญากรอย่าง รอย และ สาวกร้านโลกอย่าง ร็อคกี้ ได้อย่างเข้าอกเข้าใจ โดยได้นักแสดงคุณภาพทั้งเบน ฟอสเตอร์ ที่สามารถถ่ายทอดตัวละครที่แทบไม่เหลือความหวังในชีวิต และแอล แฟนนิ่ง ที่นอกจากเสน่ห์บนจออันล้นเหลือจากชุดสีโทนร้อนที่ขับกับผิวขาวชวนมอง ไปสู่การถ่ายทอดความเจ็บปวดและรอยแผลในอดีตได้อย่างเข้าอกเข้าใจนอกจากส่วนแอ็คติ้งแล้ว เมลานียังสามารถกำหนดทิศทางงานภาพได้อย่างชาญฉลาด ทั้งการกำหนดโทนความสว่างให้เข้ากับชะตาชีวิตตัวละคร งานกำกับศิลป์ที่แม่นยำทั้งการกำหนดสีของคอสตูมให้สื่อความหมายโดยเฉพาะชุดแดงของร็อคกี้กับชุดดำของรอย และการกำหนดทิศทางการตัดต่อให้เล่าเรื่องตัดสลับกึ่งจริงกึ่งฝันในตอนท้ายได้อย่างเปี่ยมความหมายและคุณค่าทางศิลปะได้อย่างยอดเยี่ยม