เนิ่นนานหลายปีหลังจากหลุดพ้นจากเรือนจำที่ไม่มีใครสามารถหลบหนีออกมาได้ เรย์ เบรสลิน ก่อตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยฝีมือระดับพระกาฬขึ้นใหม่ แต่เมื่อจู่ ๆ หนึ่งในสมาชิกทีมของเขากลับหายตัวไป เรย์ ต้องกลับไปยังขุมนรกแห่งเดิมอีกครั้งเพื่อนช่วยเหลือพวกพ้องจากคุกมหาประลัยที่เป็นเหมือนสมรภูมิรบสุดโหดและได้รับสมญานามว่า ‘อเวจีเฮเดส’
ตอนที่หนังเปิดเรื่องมาเหมือนจะดีนะ หนังเล่าเรื่องมีขั้นมีตอนในการเดินเรื่อง มีปมหลายๆ อย่างซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่องที่จะนำพาไปสู่แกนหลัก สักพักพอตัวเอก หวงเสี่ยวหมิง ที่รับบท ซู พระเอกของเรื่องออกมา หนังก็เหมือนจะโน้มเอียงไปให้น้ำหนักกับตัวละครตัวนี้เป็นหลัก และเนื้อเรื่องก็เริ่มออกทะเลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สเน่ห์ของหนังแหกคุก แน่นอนต้องเป็นเรื่องของการเฉลยเรื่องราวอันซับซ้อนของแผนการออกมาเรื่อยๆ จนหนีออกมาได้ ซึ่งในภาคแรกหนังอาจจะไม่ได้เจ๋งมากเหมือน Prison Break หรือไม่ได้บู๊หนักแหกคุกเหมือน Con Air แต่หนังก็ยังมีความน่าติดตามอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แต่กับภาคนี้ Hades กลายเป็นคุกที่เน้นทางเทคโนโลยีหนักมากจนแทบจะกลายเป็รหนัง Sci Fi ไปเลย แต่ก็ไม่ได้ล้ำขนาดนั้น ซึ่งพอมันกลายเป็นแบบนี้ หนังก็เริ่มหลุดจากคอนเซ็ปต์การวางแผนแหกคุกไปเป็นอะไรก็ไม่รู้
ยิ่งดูนานเข้าเรื่อยๆ กลิ่นอายความเป็นหนังจีนเริ่มเข้ามาแทนที่ความเป็นหนังฝรั่ง ความโอเวอร์แอ็คติ้งทางสีหน้าท่าทางของ หวงเสี่ยวหมิง ทำให้เริ่มน่ารำคาญมากกว่าที่จะดูเท่ห์จนน่าติดตาม หนำซ้ำเรื่องราวก็ยังไม่ีจุดยืนอะไรที่จะเป็นแกนให้โฟกัสเลยสักอย่าง จะล้ำก็ไม่ล้ำไปเลย จะให้ยากในด้านแหกคุกก็ไม่ได้ยาก แถมยังยัดเยียดการประลองอะไรไม่รู้เข้ามาตลอดทั้งเรื่อง จนมันไม่เหมือน Escape Plan ที่ต้องมีแผนการแหกคุกเลยสักนิดเดียว ตอนจบก็ไม่มีชั้นเชิง เหมือนจะจบแบบลวกๆ ไม่ได้เตรียมไว้ แล้วก็ตัดจบง่ายๆ แบบเจื่อน
ด้านนักแสดง ต้องบอกตรงๆ ว่าหนังเหมือนจะเอาใจนายทุนจีนมากเกินไป หวงเสี่ยวหมิง เลยเด่นอยู่คนเดียว แต่ต้องบอกว่าเอาหนังไม่อยู่เลย ด้วยเนื้อหาหนังที่ออกทะเลด้วย แถมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปากเบี้ยวตาขวางตลอดเวลาขนาดนั้น เวลาพูดภาษาอังกฤษก็ดูประดิษฐ์ๆ ยังไงบอกไม่ถูก ดาราที่น่าจะเอามาเป็นตัวยืนอย่าง สตอลโลน และ บาติสต้า ก็กลายเป็นตัวประกอบแบบแทบไม่มีบทอะไร เหมือนดาราหมดสภาพมาเล่นหนังเกรดบีซะงั้น
ต้องขอขอบคุณ Mono Film ที่เชิญมาดูหนังรอบสื่อเรื่องนี้ และต้องขอโทษ จริงๆ ที่รีวิวออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะมีความคาดหวังกับหนังพอสมควร แต่พอออกมาแบบนี้มันเหมือนกับดูหนังบู๊จีนธรรมดาๆ หรือหนังเกรดบีเรื่องหนึ่งเท่านั้น ถามว่าดีมั๊ย ก็ดีนะ แต่อย่าไปคาดหวังอะไรมาก เอาเป็นว่าอย่าคิดว่าเป็นหนังฮอลลีวู๊ด คิดว่าเป็นหนังจีนก็ละกัน