เจสซิก้า มาร์ติน(Kim Basinger)อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์มีชีวิตที่ผาสุขกับการส่งลูกขึ้นโรงเรียน แต่ในวันนี้สถานการณ์ต้องเปลี่ยนไปเมื่อมีชายน่าสงสัยได้บุกเข้าบ้านและได้ลักพาตัวแบบไม่รู้สาเหตุว่าคืออะไร และเรียกร้องให้บอกว่าสามีของเธออยู่ที่ไหน หนทางเดียวของเธอคือการขอความช่วยเหลือจากการประกอบโทรศัพท์บ้านที่พังให้ใช้งานได้เพื่อหวังว่าจะสามารถให้ใครได้รู้และช่วยเหลือ ซึ่งเธอได้สุ่มหมายเลขโทรไปติดไรอัน(Chris Evans)และนั้นทำให้เขาต้องประหลาดใจและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่แน่ชัดว่าคือเรื่องจริงหรือลวง แต่ด้วยความอยากช่วยเหลือทำให้ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาอย่างสุดชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเจสซิก้าก่อนที่บางอย่างจะจบลงด้วยความเลวร้าย
เพิ่งมีโอกาศได้ดูหนังเรื่องนี้ไป Cellular สัญญาณเป็น สัญญาณตาย เป็นหนังที่ทำออกมาดูโปสเตอร์หนังแล้วดูไม่น่าจะทุนสูงอะไรและก่อนดูก็ไม่ได้ขาดหวังอะไรจากเรื่องนี้ แต่หลังจากดูเสร็จหนังกลับให้เรามากกว่าความมันส์ครับ ชอบที่หนังให้พระเอกของเรื่อง (Chris Evans) ที่ดวงซวยรับสายเข้าจากคนที่ดูไม่เอาไหนต้องกลายมาเป็นส่วนสำคัณของเรื่อง และชอบที่หนังสื่อว่าคนส่วนมากเห็นเรื่องของคนอื่นไม่ใช้ธุระของตัวจึงไม่คิดจะช่วยต้องรอให้โดนปืนจ่อหน้าถึงจะทำ ต่างจากพระเอกที่เป็นคนดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือ
สรุปหนังเรื่องนี้คุ้มค่ากับการดูจริงๆได้ทั้งความมันส์กดดันเป็นหนังลุ้นระทึกไล่ล่า และสิ่งที่หนังสื่อชีวิตของสังคมที่ต้องมีโทรศัพท์มือถือใช้งานที่เป็นหัวใจของเรื่องจะเห็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสียของมือถือที่อาจช่วยหรือทำร้ายเราก็ได้ ที่สำคัญ Chris Evans แสดงได้ดีจริงๆเราชอบมากอ้ะ
ไรอัน (Chris Evans) จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์ลึกลับจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธออ้างตัวว่าชื่อ เจสสิก้า มาร์ติน (Kim Basinger) พร้อมเล่าว่าเธอถูกลักพาตัวมา ซึ่งเป็นไปได้ว่าคนที่จับเธอมานั้นต้องการทำร้ายเธอรวมถึงทำร้ายสามีและลูกของเธอด้วย
ตอนแรกไรอันก็คิดว่าคงแค่โทรมาอำกัน แต่พอเขาลองสังเกตเงื่อนงำต่างๆ ก็ชักจะรู้สึกว่าเจสสิก้าพูดความจริง เขาเลยต้องลงมือพลิกเมืองเพื่อช่วยเธอออกมาและหาทางขัดขวางแผนของคนร้ายให้ได้
ถือเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ เลยครับ กำกับโดย David R. Ellis ผู้ล่วงลับ ขานี้ถือว่าทำหนังแนวระทึกขวัญหรือสยองขวัญได้น่าพอใจ อาจไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยมมากมายแต่ก็ดูเอาบันเทิงได้สบายๆ อย่างเรื่องนี้ก็เหมือนกันครับ ดูแล้วก็ลุ้นระทึกใช้ได้ แต่ก็มีจังหวะอืดช้าไปบ้าง กระนั้นถ้าดูโดยรวมผมว่าโอเคเลยล่ะครับสำหรับหนังแนวนี้
เป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่ต้องสาธยายยาวครับ เพราะถ้าคุณอ่านพล็อตแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ รู้สึกกระหายใคร่ดู หนังเรื่องนี้ก็น่าจะเหมาะสำหรับคุณครับ แต่ถ้าอ่านแล้วเฉยๆ หรือดูหนังสไตล์นี้มานานจนไม่สนใจอีก หนังเรื่องนี้ก็คงขึ้นทำเนียบ “ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้” หรือ “ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป” สำหรับคุณเหมือนกัน
ส่วนผมดูเอาเพลิน เอาตื่นเต้น ก็ได้ตามที่ใจคิดคาดหมายพอดี