Apocalypse Now มีส่วนร่วมที่ดัดแปลงมาจากนวนิยาย Heart of the Darkness ของ Joseph Conrad มาดัดแปลงเป็นการผจญภัยไปสู่ความมืดดำของสงครามเวียดนาม โดยมีเนื้อเรื่องที่ไม่วุ่นวายอะไรมากนักกับพล็อตที่เอานายทหารคนหนึ่งมาจัดการทหารอีกคนหนึ่งที่ถูกประเมินแล้วว่าเป็นตัวก่อปัญหา โดยได้ร้อยเอกเบนจามิน แอล วิลลาร์ด (Martin Sheen) รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปในป่าดงดิบในเวียดนามเพื่อล่าสังหารพันเอกวอลเทอร์ อี.เคิร์ทซ (Marlon Brando) ผู้บังคับหน่วยรบพิเศษกรีนแบเรต์ที่ละทิ้งหน้าที่ และผู้บังคับบัญชาแทงบัญชีว่าเป็นบุคคลวิกลจริต เนี่ยแหละพล็อตสั้นๆที่ว่าตามรายละเอียดเล็กรายละเอียดน้อยเต็มไปหมด
แถมยังมีสภาพความเลวทรามของมนุษย์ผ่านการตีแผ่เรื่องสงครามชนิดเสียดสี ถกเถียง เสนอแนวคิด รวมถึงการตีรูปแบบตามความเป็นไปของสังคมทั้งทุนนิยมเอย บริโภคนิยมเอย เหมือนจะไม่ใช่หนังสงครามที่ดูกันง่ายๆเลยนะ
ทีแรกผู้กำกับ George Lucas ได้ถูกเสนอชื่อให้มาทำเรื่องนี้ แต่ความสนใจกลับถูกหันเหไปทาง Star Wars ซึ่งก็เป็นผู้กำกับอย่างที่มาก ทว่าหนังเรื่องนี้ใช้เวลาสร้างนานมาก เนื่องจากปัญหาเรื่องหัวใจของชีนและปัญหาความอ้วนของ Marlon Brando ในงบประมาณครั้งแรกได้วางเอาไว้ที่ 13 ล้านเหรียญ แต่ยิ่งมีปัญหากับเวลาที่ยาวนานจึงได้ยืดเยื้อบานปลายถึง 31.5 ล้านเหรียญแทน จนนักข่าวบันเทิงบันทึกให้ว่า Apocalypse Later
ทั้งนี้ได้รับรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และได้รับการบรรจุชื่อเป็นภาพยนตร์ที่ต้องอนุรักษ์ใน National Film Registry โดยหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ในปี 2000 ถึงจะเสร็จช้า และบานปลายเรื่องงบประมาณไปบ้าง ทว่ากำไรที่ได้มามีค่ามากกว่าเงินทองซะอีก ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้มีโอกาสได้ชมจึงขอให้รีบๆหาตอนนี้เลย ก่อนจะหมดโอกาสหยิบ”มหากาพย์แห่งสงคราม”ขึ้นหิ้งเรื่องนี้หลุดมือ
ความหมายของคำว่า Apocalypse คือวันโลกาวินาศถ้าจะแปลกันว่านั้นตามหลักพระคัมภีร์คริสธรรม และมีรากศัพท์มากจากภาษากรีก Apokalypsis แปลว่าการเปิดเผย มองรวมๆอาจได้ความว่าการเปิดเผยหายนะล้างโลก ซึ่งตามพระวจนะของพระเจ้าในไบเบิ้ลนั้น โลกจะถูกล้างด้วยไฟบรรลัยกัลป์ทำลายทุกสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก งั้นคงมองไม่ยากเมื่อน่าจะมีความหมายเชิงอุปมาอุปลักษณ์แทนด้วยระเบิดนาปาล์มชุดใหญ่ที่ปรากฏในเรื่องแบบไม่มีทางลืม
เสมือนมองไฟที่เผาไหม้ชาวเวียดกงทั้งเป็นจากคำทำนายที่เกิดเช่นเดียวกับการล้างโลกที่ตอนนี้ล้างศัตรูตรงหน้าแทน ใช่รูปแบบของการล้างโลก แล้วเปิดเผยล่ะจะบอกว่าไง จะบอกว่าเป็นสงครามที่เปิดเผยเหรอ ไม่ๆเรื่องแบบนั้นใครๆก็รู้ได้กันอยู่แล้ว เพียงมันเป็นเรื่องเปิดเผยด้านมืดของคนต่างหาก อันที่จริงด้านมืดของมนุษย์อย่างเราๆมันเกิดก่อนด้านสว่างซะอีก ดูอย่างสงครามแต่ละครั้งสิ มีที่ไหนอยากชนะก่อนเกิดสงคราม แม้จะบอกว่ายังไม่มีการตาย
แต่สงครามมันเริ่มตั้งแต่มีความขัดแย้งในใจอยู่แล้ว ก็สงครามในตัวเราไง สงครามที่ต้องต่อสู้กับตัวเองภายใต้จิตใจกับด้านมืดมน สุดท้ายคำว่าหายนะล้างโลกตีความได้กว้างไปหน่อย อันที่จริงควรบอกว่าล้างสัตว์ประเสริฐ์ด้วยกันเองน่าจะเหมาะกว่ามาก อ้าวไม่งั้นจะมาล้างโลกให้สะอาดทำไมถ้าไม่ใช่เพราะมนุษย์ตัวดีที่มอบโคลนลงแผ่นกระดาษที่ล้างไม่ออก ตอนนี้ทุกคนมีสงครามในตัวเพียงมันยังหรอก ยังไม่ถึงเวลา เวลานั้นมาถึงการเปิดเผยจะชัดเจน