ซิลวาโน เบนติโวกลิโอและวิตตอเรีย เวตรา สองนักวิทยาศาสตร์จาก CERN ประสบความสำเร็จในการสร้างปฏิสสารขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ภายหลังซิลวาโนถูกฆ่าและหลอดปฏิสสารหายไป ในเวลาเดียวกันที่นครรัฐวาติกัน มีการเตรียมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่หลังองค์ก่อนสิ้นพระชนม์กระทันหัน โดยมีคาเมอร์เลนโญ แพทริก
แมคเคนนาเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อย ต่อมาพบว่า “เปรเฟริติ” (พระคาร์ดินัลที่มีโอกาสได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่) 4 รูปถูกลักพาตัวไปโดยชายที่อ้างตนว่าเกี่ยวข้องกับองค์กรอิลลูมินาตี ชายคนดังกล่าวประกาศในวิดีโอว่าจะฆ่าพระคาร์ดินัลทุก ๆ ชั่วโมง เริ่มเวลา 2 ทุ่ม ก่อนจะทำลายนครรัฐวาติกันด้วยปฏิสสารตอนเที่ยงคืน วาติกันจึงเชิญตัวเวตราและโรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์วิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดให้มาช่วยตามหาตัวพระคาร์ดินัลและหลอดปฏิสสาร
แลงดอนได้ชมวิดีโอดังกล่าวและอนุมานว่าพระคาร์ดินัล 4 รูปจะถูกฆ่าที่แท่นบูชาธาตุทั้ง 4 ตาม “วิถีแห่งการรู้แจ้ง” แลงดอนได้รับอนุญาตให้ใช้หอจดหมายเหตุวาติกันเพื่อตามหาเส้นทางดังกล่าวในหนังสือที่เขียนโดยกาลิเลโอ กาลิเลอี แลงดอน เวตราและทหารตำรวจของวาติกันไปที่โบสถ์น้อยกีจีแล้วพบร่างพระคาร์ดินัลเอ็บแนร์ถูกดินอัดในลำคอ
ที่หน้าอกถูกประทับตราแอมบิแกรม “ปฐพี” (Earth) ต่อมาแลงดอนและเวตราพบร่างพระคาร์ดินัลลามัสเซท่ามกลางฝูงชนที่จัตุรัสนักบุญเปโตร ที่หน้าอกของท่านถูกประทับตรา “วาโย” (Air) เวตราพยายามจะผายปอดช่วยชีวิต แต่พบว่าปอดของพระคาร์ดินัลถูกเจาะ